ชาวประมงหลายคนทำสีหน้าดีใจ ต่างพากันพยักหน้า
“เช่นนั้นต้องขอบคุณคุณชายอินเป็นอย่างมาก”
“บังเอิญมีตลาดอยู่ใกล้ๆ พรุ่งนี้จะเป็นวันไปตลาด”
“ในตลาดมีของขายทุกอย่าง สามารถซื้อของกินชั้นดีได้มากทีเดียว”
ชีวิตชาวประมงค่อนข้างลำบาก พวกเขาแทบไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากปลา เมื่อได้ยินว่ามีคนจ่ายเงินเลี้ยงอาหาร พวกเขาก็เริ่มพูดคุยกันอย่างมีความสุข
มุมปากของอาซือหลานเผยรอยยิ้มให้เห็นจางๆ และนำเงินใส่ในมือของตาเฒ่าจัง
“เอาตามนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ไม่ต้องออกไปจับปลา ข้าอาจจะอยู่อีกไม่นานนัก พวกเราใช้โอกาสนี้มาฉลองกันดีกว่า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จังอวี้จิ่นที่ยกโจ๊กมาที่หน้าประตูก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
อาจเป็นเพราะอาซือหลานหน้าตาดีมากเกินไป ทำให้นางตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น เมื่อได้ยินว่าเขาจะไป นางจึงทำใจไม่ค่อยได้
ตาเฒ่าจังคิดดูแล้วก็พูดว่า “ก็จริง บนโลกนี้ไม่มีงานเลี้ยงที่เป็นนิรันดร์ พรุ่งนี้พวกเราร่วมสังสรรค์กันเสียหน่อยเถอะ”
คืนนั้น จังอวี้จิ่นได้ทำการตุ๋นปลา
อาซือหลานกินได้มากทีเดียว ข้าวหุงลูกเดือยและถั่วหากินได้ยากนัก
เมื่อเห็นเขากินอย่างเอร็ดอร่อย จังอวี้จิ่นก็เม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม ต้องการจะตักให้เขาเพิ่มอีกถ้วย แต่ถูกอาซือหลานปฏิเสธ
หลังมื้ออาหารเขาไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน เขาแต่งกายด้วยชุดคลุมหรูหราสีม่วง ดูแปลกตาอย่างเห็นได้ชัด หากเทียบกับหมู่บ้านที่ทรุดโทรมแห่งนี้
จังอวี้จิ่นเดินตามหลังอาซือหลาน มีความคิดมากมายในใจของนาง
ผู้ชายที่ดีขนาดนี้ ไม่มีทางจะอยู่ในหมู่บ้านประมง และเข้าก็ไม่มีทางชอบคนอย่างตัวเองได้ ทุกสิ่งเป็นเพียงกระจกเงาและความฝันอันสวยงาม
อาซือหลานหันกลับมา
“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกเราควรกลับแล้วล่ะ”
จังอวี้จิ่นขานรับ และพาอาซือหลานกลับมาที่บ้าน
ในขณะที่เดินเข้าประตูนั้น จู่ๆ อาซือหลานก็พบว่าด้านข้างของจังอวี้จิ่นละม้ายกับอินชิงเสวียนเหลือเกิน โดยเฉพาะสันจมูกที่สูงโด่ง เหมือนกันกับอินชิงเสวียนไม่มีผิด จึงส่ายหัวอย่างอดไม่ได้
“น่าเสียดาย”
จังอวี้จิ่นเงยหน้าด้วยความงุนงง
“ทำไมหรือเจ้าคะ คุณชายอิน?”
“ไม่มีอะไร”
อาซือหลานยิ้มและเดิรเข้าบ้าน
วันถัดมา
ชาวประมงในหมู่บ้านรู้ว่าอาซือหลานจะเลี้ยงอาหารพวกเขา พวกเขาจึงไม่ได้ออกไปหาปลา ตาเฒ่าจังพาชายหนุ่มสองคนไปที่ตลาด ซื้อหมูและแพะอย่างละหนึ่งตัวกลับมา พร้อมกับข้าวสารข้าวฟ่างอีกไม่น้อย และยังมีเหล้าอีกหลายไห
ทุกคนฆ่าหมูล้มแพะ คึกคักเสียยิ่งกว่าฉลองปีใหม่
อาซือหลานยืนมองอยู่ที่หน้าประตู มุมปากยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลา
พระอาทิตย์อัสดงส่องมาที่เขา ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูสดใสขึ้นเล็กน้อย แต่ทว่าดวงตาของเขากลับเย็นชา รอยยิ้มแบบนั้นไม่เคยไปถึงดวงตาของเขาเลย
สายตาที่เฉยเมยนั้น ราวกับกำลังดูละครตลกที่เนื้อเรื่องไม่สัมพันธ์กัน
ไม่นานนัก กลิ่นหอมของเนื้อลอยก็ออกมาจากในบ้าน
มีคนริยเหล้าให้อาซือหลานหนึ่งถ้วย หัวเราะแหะๆ และพูดว่า “ขอบคุณคุณชายอินมาก หากไม่มีคุณชายอิน เกรงว่าชาตินี้พวกเราคงไม่ได้กินเหล้าและเนื้อที่ดีแบบนี้ได้”
อาซือหลานเม้มปากเบาๆ ยิ้มและพูดว่า “ทุกคนไม่ต้องเกรงใจ พวกท่านคือผู้มีบุญคุณของข้า ข้าต้องตอบแทน วันนี้ไม่เมาไม่กลับ”
ทุกคนรีบชูแก้วเหล้าขึ้น และพูดขึ้นเสียงดัง “ไม่เมาไม่กลับ”
เมื่อเห็นคนเหล่านี้กินอาหาร พร้อมกับพูดไปหัวเราะไป รอยยิ้มที่มุมปากของอาซือหลานก็กว้างมากขึ้น
ความจริงก็ควรกินให้อร่อย เมื่อหมดมื้อนี้ก็อาจจะไม่มีอีกแล้ว
เพียงพริบตาเดียว ท้องฟ้าก็เริ่มมืด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...