ในขณะที่อาซือหลานต้องการกลับไปที่เจียงวู เย่จั้นก็กำลังควบม้าพาทหารศึกไปยังเมืองซุ่ยหาน
เมื่อเดินทางมาถึงปากแม่น้ำไป๋เจียง จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บหน้าอกขึ้นมา จึงผ่อนฝีเท้าให้ช้าลง
ทหารที่อยู่ข้างกายรีบถามขึ้นว่า “ท่านอ๋อง มีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่?”
เย่จั้นส่ายหน้า
“ไม่มีอะไร เตรียมข้ามแม่น้ำ”
เขาพลิกตัวลงจากหลังม้า แต่กลับรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกัดที่หัวใจ เขาเจ็บปวดจนหน้ามืด เมื่อฝีเท้าไม่มั่นคงก็คุกเข่าลงที่พื้นในทันที
เหล่าทหารพากันตกใจยกใหญ่ รีบเข้าไปช่วยพยุงเขาไว้
“ท่านอ๋อง เป็นอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
เย่จั้นจับข้อมือขององครักษ์เอาไว้ บอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แต่ทว่ากลับรู้สึกปวดบิดที่หัวใจ
“หัวใจของข้า...”
เหงื่อเม็ดละเอียดผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเย่จั้น
หรือว่าพิษสะกดจิตที่อาซือหลานพูดจะเป็นเรื่องจริง?
เมื่อเห็นว่าเย่จั้นสีหน้าซีดขาว พูดจาลำบาก เหล่าทหารต่างสีหน้าเปลี่ยนในทันที
“แพทย์ทหาร รีบมานี่สิ”
ผู้เฒ่าคนหนึ่งสะพายหีบยาวิ่งขึ้นมาด้านหน้า เมื่อจับชีพจรของเย่จั้นได้ กลับสัมผัสไม่พบสิ่งผิดปกติใด จึงร้อนใจเล็กน้อย
“ท่านอ๋องรู้สึกไม่สบายที่ใดพ่ะย่ะค่ะ?”
เย่จั้นพยายามอ้าปาก แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดออกมา ศีรษะของทรุดลงบนพื้น
ทุกคนต่างตกใจมาก และตะโกนเรียกหลายครั้ง “ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง!”
เย่จั้นกลับหลับตาสนิท ไม่มีความรู้สึกใดๆ
เหล่าทหารทั้งตกใจและกลัว ต่างคนต่างมองหน้ากัน
“ครั้งนี้จะเอาอย่างไรกันดี?”
“แพทย์ทหาร ท่านตรวจรู้หรือไม่ว่าท่านอ๋องป่วยเป็นอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...