สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 448

ณ เจียงวู

อาซือหลานกลับมาที่กระโจม ใบหน้าอันหล่อเหลามีสีหน้าเคลือบคลุมไม่แน่นอน

จูอวี้เหยียนเดินนวยนาดเข้ามาจากประตู

“หรือว่าที่สถานการณ์การสู้รบไม่ดีสำหรับเรา”

อา‍ซือ‍หลานกล่าวว่า “อินจ้งมาถึงด่านถงกู่แล้ว จะต้องมีการต่อสู้ที่ดุเดือดเป็นแน่ คนผู้นี้ต่อสู้กับเจียงวูมาหลายครั้ง คุ้นเคยกับนิสัยการศึกของเจียงวูมาก หากต้องการเอาชนะเขา ต้องใช้กองทัพที่คาดไม่ถึง”

จูอวี้เหยียนกระตุกมุมปากขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พวกเราเตรียมกองทัพที่คาดไม่ถึงมานานแล้วไม่ใช่หรือ ข้ารับรองว่าถ้าบอกให้อินสิงอวิ๋นไปทางใด เขาจะไม่มีวันไปอีกทาง”

อา‍ซือ‍หลานโอบแขนรอบเอวบาง ก้มศีรษะลงแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “กู่ของเจ้าร้ายกาจก็จริง แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะใช้มัน”

จูอวี้เหยียนแค่นเสียงหึและพูดว่า “หรือว่าที่ท่านอ๋องเห็นเขาเป็นว่าที่พี่ชายของภรรยา ถึงตัดใจให้เขาตายไม่ได้”

อาซือหลานกล่าวว่า “เขาไม่ใช่อินชิงเสวียนเสียหน่อย ทำไมข้าต้องตัดใจไม่ลง เพียงแค่ยังไม่สบโอกาสเหมาะ สิ่งที่ข้าต้องการคือชีวิตของอินจ้ง ไม่ใช่แค่ชัยชนะง่ายๆ”

จูอวี้เหยียนหัวเราะเบาๆ อิงแอบในอ้อมแขนของอา‍ซือ‍หลาน

“ท่านอ๋องโหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ ท่านไม่กลัวว่าอินชิงเสวียนจ้ะสียใจหรอกหรือ”

อา‍ซือ‍หลานปล่อยมือของนาง แสยะยิ้มชั่วร้าย

“ข้าย่อมไม่บอกให้นางรู้อยู่แล้ว”

ในเวลานี้ อินชิงเสวียนที่กำลังเย้าหยอกเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงเล่นอยู่ จู่ๆ นางก็จามเสียงดัง

อวิ๋นฉ่ายพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฝ่าบาทคงคิดถึงกุ้ยเฟยของเราอีกแล้ว”

อินชิงเสวียนกลอกตามองนาง มองค้องอย่างโกรธๆ “เจ้าเด็กบ้า ล้อข้าอีกแล้ว”

นางหวังว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้จะไม่มาคืนนี้ ดังนั้นนางจึงเล่นกับเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอยู่ตลอด เพราะไม่อยากให้เขาไปนอนที่ห้องโถงด้านข้าง

ประการแรกเป็นเพราะเขินอายที่จะได้พบหน้า และประการที่สองนางกลัวว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้จะต้องการในตัวนางอีก

เมื่อคืนนางถูกทรมานจนปวดไปทั้งตัว ถ้าไม่ใช่เพราะน้ำพุวิญญาณ ตอนนี้นางก็คงยังคงนอนอยู่บนเตียง

ผู้ที่ฝึกฝนวรยุทธ์นั้นไม่สามารถแตะต้องได้จริงๆ พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งนัก

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่สม่ำเสมอนอกประตู

อวิ๋นฉ่ายเม้มริมฝีปากยิ้มๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์