“ในเมื่อกงกงให้เราไป เราก็ไปเถอะ เราไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ไม่มีอะไรต้องกลัว”
กระเสียงเย้ายวนมีเสน่ห์ดังมาจากในตำหนัก แล้วจูอวี้เหยียนก็เดินนวดนาดออกมา
หลี่เต๋อฝูเหลือบมองนางแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “นายหญิงท่านนี้ยังมีไหวพริบ เช่นนั้นก็เชิญเถิด”
จูอวี้เหยียนโน้มตัวเล็กน้อย แล้วพาทุกคนออกจากหอซีอวิ๋น
นางหลุบตาลง ระหว่างทางที่เดินก็ระดมหนอนกู่ในร่างกายด้วย
ในห้องหนังสือ จิตใจของเย่จิ่งอวี้เริ่มกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆ ความปรารถนาที่จะพบหน้าสาวใช้เหล่านั้นก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เขานั่งบนเก้าอี้ พยายามสงบจิตใจ หลังจากผ่านไปประมาณสิบห้านาที เขาก็ลุกขึ้นยืน
“เด็กๆ ไปคุกหลวง”
ในเวลานี้ จูอวี้เหยียนและคนอื่นๆ มาถึงแล้ว นางหันกลับมา ถามด้วยรอยยิ้มหวานราวบุปผา “กงกงท่านนี้ ไม่ทราบว่าพวกเรามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ใด”
หลี่เต๋อฝูกล่าวว่า “ฝ่าบาทต้องการถามอะไรบางอย่าง จึงต้องลำบากนายหญิงทุกคนแล้ว เด็กๆ มามัดนายหญิงเหล่านี้ไว้”
“ช้าก่อน”
เสียงทุ้มต่ำดังมาจากด้านนอกประตู
เย่จิ่งอวี้ที่สวมเสื้อคลุมสีดำเดินเข้ามาจากประตู
หลี่เต๋อฝูโค้งคำนับกล่าวว่า “ฝ่าบาท”
เย่จิ่งอวี้มองไปที่จูอวี้เหยียน พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “พวกเจ้าถอยไปก่อน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
หลี่เต๋อฝูคิดว่าเย่จิ่งอวี้จะมาสอบปากคำเขาด้วยตนเอง จึงให้ทุกคนออกไป
จูอวี้เหยียนกระตุกมุมปากขึ้น แล้วพูดกับเย่จิ่งอวี้ “ฝ่าบาท มีอะไรจะถามหม่อมฉันหรือเพคะ หม่อมฉันเจ็บข้อมือมากเลย”
เมื่อได้ยินเสียงของนาง ความว้าวุ่นใจทั้งหมดของเย่จิ่งอวี้ก็ลดลง จนถึงกับรู้สึกถึงความสบายใจบางอย่าง
เดิมทีอยากถามเรื่องพิษกู่กับจูอวี้เหยียน แต่กลับลืมไปชั่วขณะ
จูอวี้เหยียนเหลือบมองเขา แล้วพูดเสียงออดอ้อน “ฝ่าบาทอยากเห็นการร่ายรำของเจียงวูเราหรือไม่เพคะ เพื่อร่ายรำให้ฝ่าบาททอดพระเนตร พวกหม่อมฉันฝึกฝนมานานแล้ว”
เย่จิ่งอวี้พยักหน้าอย่างเชื่องช้า
“ดี”
เย่จิ่งอวี้จากไปอย่างเร่งรีบทั้งสองครั้ง มักรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ไป
พอนึกถึงว่าวันนี้เขาดื่มสุราไปไม่น้อย ก็เริ่มเป็นห่วงเขาขึ้นมา
“เสี่ยวอานจื่อ ไปห้องหนังสือกับข้า”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เสี่ยวอานจื่อจุดโคมไฟ แล้วเดินนำทางไป เมื่อมาถึงห้องหนังสือ ก็ได้รับแจ้งว่าฝ่าบาทได้ไปคุกหลวงแล้ว
หรือว่าจับคนทรยศในวังได้อีก
อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว พูดว่า “พวกเราก็ไปคุกหลวงกันเถอะ”
เมื่อมาถึงคุกหลวง ได้รับแจ้งว่าฝ่าบาทไปที่หอซีอวิ๋นแล้ว
เมื่อรู้ว่าเย่จิ่งอวี้จับสาวใช้ของเจียงวู และปล่อยพวกนางไป อินชิงเสวียนก็อดสงสัยไม่ได้ เพราะอะไรกันนะ
เสี่ยวอานจื่อพูดว่า “พระสนม ทำไมเราไม่ลองไปดูล่ะ”
อินชิงเสวียนขมวดคิ้วและพยักหน้า ทันทีที่มาถึงประตูหอซีอวิ๋น ก็ได้ยินเสียงหัวเราะครื้นเครง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...