สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 505

สี่ชั่วยามต่อมา หญิงสาวทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในย่านใจกลางเมือง

ทุกครั้งที่อินชิงเสวียนออกจากวังนางมักจะรีบเร่งอยู่เสมอ ไม่เคยเดินเที่ยวเล่นเช่นนี้มาก่อน เมื่อมองดูผู้คนที่ยุ่งวุ่นวายทำการค้าบนถนน จู่ๆ นางก็รู้สึกเหมือนกำลังเดินเล่นที่ตลาดนัดกลางคืน

ทั้งสองมองไปรอบๆ รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมาก

ฉินเทียนและหลี่ฉีติดตามทั้งสองอยู่ข้างหลัง แต่กลับทำท่าระแวดระวังราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขาม

คนผู้นี้เป็นถึงกุ้ยเฟยของฝ่าบาทองค์ปัจจุบัน ทั้งยังมีบุตรีคนที่สี่ของแม่ทัพอิน หากเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่สามารถรับผิดชอบไหว

“ท่านพี่ น้ำตาลปั้นเจ้าค่ะ!”

อินจื่อลั่วชี้ไปที่คนขายน้ำตาลปั้น แล้วทำท่าเหมือนอยากไปลองกิน

อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไป พวกเราไปชื้อมาลองชิมสองอัน”

นับตั้งแต่ออกจากวังเย็น อินชิงเสวียนก็มีความกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ มากมาย ยากมากที่อินชิงเสวียนจะผ่อนคลายจิตใจเช่นนี้

อินจื่อลั่ววิ่งไปที่แผงขายน้ำตาลปั้น หมายตาน้ำตาลปั้นเล็กๆ ที่อยู่ด้านบนสุด นางเอื้อมมือจะไปหยิบ แต่กลับมีมืออีกข้างหนึ่งมาฉวยไปก่อน

อินจื่อลั่วจ้องตามมือไปหาเจ้าของมือ แล้วก็เห็นว่าคนที่แย่งน้ำตาลปั้นไปเป็นเด็กชายอายุเจ็ดแปดขวบ สวมชุดผ้าแพรสีเขียวเข้ม ท่าทางดูดี

ในชั่วพริบตา เด็กชายก็อ้าปากกัดเข้าน้ำตาลปั้นเข้าไปเต็มคำ

ส่วนหัวน้ำตาลปั้นถูกกัดทันที อินจื่อลั่วร้องลั่นอย่างอดไม่ได้

เด็กชายเหลือบมองนาง แล้วเคี้ยวน้ำตาลปั้นต่อ

อินชิงเสวียนได้ยินเสียงจึงมองตามไป แล้วก็เห็นเย่จิ่งหลานที่ยืนยืดหลังตรงอยู่ เขาตัวไม่สูง จึงต้องพยายามเขย่งเท้ายืดคอ ดูน่าขำเล็กน้อย

อินจื่อลั่วโกรธมาก เท้าสะเอวอย่างอดไม่ได้ แล้วพูดว่า “ข้าเห็นก่อนนะ”

เย่จิ่งหลานหันกลับมาแล้วพูดว่า “แต่ข้าหยิบได้ก่อน”

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็บังเอิญเห็นอินชิงเสวียน เขารู้สึกเขินอายเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์