สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 558

ในป่าที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้ แม่นางน้อยที่สวมชุดต่างเผ่ากำลังวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต

ข้างหลังนางมีสุนัขป่าที่หิวโหยกำลังไล่ล่านาง

นางวิ่งมานานกว่าหนึ่งชั่วยาม ใบหน้าเล็กๆ แดงก่ำจากความกลัวและความเหนื่อยล้า

เมื่อเห็นว่าสุนัขป่ากำลังจะตามทัน นางก็ดึงธนูและลูกธนูเล็กๆ ที่ฝังด้วยอัญมณีออกมาจากด้านหลัง

นี่คือสิ่งที่พี่ใหญ่ของนางอูเอินเป็นคนทำให้นางด้วยตัวเอง ตอนเด็ก พี่ใหญ่ยังสอนวิธียิงธนูให้นางกับมือ

เมื่อนึกถึงความอบอุ่นของครอบครัว นัยน์ตาของเป่าเล่อเอ่อร์ก็ฉายแววเจ็บปวด

ในสถานการณ์วิกฤติ นางไม่มีเวลาคิดอะไรมาก นางรีบโน้มธนูและยิงลูกธนูไปอย่างรวดเร็ว ลูกธนูปักร่างของสุนัขป่าเข้าอย่างจัง

การฝึกฝนมาหลายปี ได้ถูกนำมาใช้ในวันนี้เวลานี้ ลูกธนูเหล็กพุ่งฉิวไปอย่างรวดเร็วปานอสุนีบาตยิงเข้าที่คอของสุนัขป่าอย่างแม่นยำและรุนแรง

สุนัขป่านอนอยู่บนพื้น เห่าหอนหลายครั้ง จากนั้นก็กระตุกและแน่นิ่งไป

เป่าเล่อเอ่อร์เดินอย่างระมัดระวัง ดึงลูกธนูออกมา พอเห็นว่าฟ้าเริ่มมืดแล้ว จึงรีบวิ่งออกจากป่า

ตั้งแต่เด็กจนโตนางไม่เคยออกจากเจียงวูเลย ตอนนี้อาศัยแรงรักทั้งหมด คิดในใจว่า หากก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ก็จะได้เจอหน้าอามู่เอ่อร์ของนางแล้ว

เมื่อนึกถึงฉากแห่งความรักระหว่างทั้งสอง เป่าเล่อเอ่อร์จำต้องกัดฟัน เดินเร่งความเร็วขึ้นอีก

บนถนนสายหลักอีกเส้นทางหนึ่ง อา‍ซือ‍หลานซึ่งสวมชุดคลุมสีม่วงงดงามพร้อมด้วยสาวใช้สี่คน ช่วยกันตามหาเป่าเล่อเอ่อร์ตลอดทาง

“นังเด็กบ้านี่เพิ่งเคยออกจากเจียงวูเป็นครั้งแรก คงไม่ควรกล้าใช้ถนนสายเล็ก พวกเจ้าไปค้นหาอย่างละเอียด”

“เจ้าค่ะ นายท่าน”

สาวใช้ทั้งสี่แยกย้ายกันไปทันที อาซือหลานนั่งบนหลังม้า โบกพัดช้าๆ ริมฝีปากประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ แววตาวูบไหว อันทำให้ยากต่อการคาดเดาความคิดที่แท้จริง

ในเวลานี้ เป่าเล่อเอ่อร์ได้เดินลัดเลาะออกจากป่า และเดินไปยังเส้นทางสายเล็กเส้นอื่น

นางพบสถานที่เงียบสงบ หยิบเสบียงแข็งๆ เย็นๆ ออกมา กัดเคี้ยวไปสองสามคำ พอฟื้นกำลังขึ้น นางก็เดินทางต่อไป

นางรู้ว่าอา‍ซือ‍หลานจะตามหานางอย่างแน่นอน เพื่อใช้นางควบคุมตระกูลอิน

นางจะไม่มีวันยอมให้อา‍ซือ‍หลานมีโอกาสควบคุมตัวเอง และบังคับอินสิงอวิ๋น

เมื่อนึกถึงชายร่างสูงโปร่งหล่อเหล่าผู้นั้น เป่าเล่อเอ่อร์ก็รู้สึกถึงเรี่ยวแรงอันมากมายมหาศาล

นางกระชับคันธนูที่แผกอยู่ข้างหลัง ต้องรีบออกจากเขาลูกนี้ด่วน และเข้าสู่อาณาเขตของต้าโจวโดยเร็วที่สุด...

ตระกูลอิน

จูอวี้เหยียนลืมตามืดมนขึ้น จ้องมองไปยังหลังคา

หลายต่อหลายครั้ง นางเคยจินตนาการถึงชีวิตที่ได้อยู่กับบิดา แม้ต้องกินผักหญ้ากินรำข้าวประทังชีวิต นางก็ไม่นึกรังเกียจ

อย่างไรก็ตาม นางรอคอยมานานกว่าสิบปี หัวใจที่กระตือรือร้นของนางก็ค่อยๆ เฉยชา สะสมจนกลายเป็นความเย็นชา

ตอนนี้นางมีแต่ความเกลียดชังเท่านั้น

ตราบใดที่นางยังมีชีวิตอยู่ นางจะทำให้ตระกูลอินไม่สงบสุข

เมื่อนึกถึงตรงนี้ จูอวี้เหยียนก็หัวเราะราวกับสติวิปลาส พอหัวเราะไปได้ครู่หนึ่ง ก็มีมีดสั้นเย็นเฉียบกดที่ลำคอของนาง

เงาสูงของอินสิงอวิ๋นบดบังใบหน้า เมื่อมายืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่าง ก็เผยให้เห็นถึงความเยียบเย็นของใบหน้าอันหล่อเหลาดวงนั้น

“ได้ยินว่า เจ้ามาจากเจียงวู?”

อินสิงอวิ๋นถามอย่างเย็นชา

เมื่อเห็นว่าเป็นเขา จูอวี้เหยียนก็หยุดยิ้ม แค่นเสียงเย็นชา

“แล้วอย่างไรล่ะ”

“ได้ยินว่า ข้าก็เคยอยู่ที่เจียงวู?”

อินสิงอวิ๋นถามทื่อๆ ราวกับเครื่องจักร

“ใช่ เจ้าต้องการถามอะไรกันแน่”

จูอวี้เหยียนกลอกลูกตา ราวกับว่านางต้องการมองเข้าไปในความคิดของอินสิงอวิ๋น

อินสิงอวิ๋นเก็บมีดสั้นกลับคืน ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “แล้วเจ้ารู้จักสตรีต่างเผ่าคนนั้นหรือไม่”

จูอวี้เหยียนจ้องมองเขาอยู่นาน จากนั้นก็ยกริมฝีปากขึ้นยิ้ม

“พี่ใหญ่คนดีของข้า เจ้าคิดถึงเมียของเจ้าเป่าเล่อเอ่อร์งั้นรึ”

“เป่าเล่อเอ่อร์?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์