“ลุกขึ้นเถอะ”
อินชิงเสวียนนั่งข้างเตียง แล้วถามอย่างอ่อนโยน “ยังเจ็บหรือไม่”
จังอวี้จิ่นรีบละล่ำละลักพูดว่า “ไม่เจ็บแล้วเพคะ ทายานี้แล้วอาการบรรเทาลงมาก อาการดีขึ้นแล้วเพคะ”
อวิ๋นฉ่ายที่อยู่ข้างๆ กล่าวว่า “นี่คือยาจินชวงที่ฝ่าบาทประทานให้พระสนมเชียวนะ เป็นของล้ำค่ายิ่งนัก”
จังอวี้จิ่นคุกเข่าลงอีกครั้งทันที
“ขอบพระทัยกุ้ยเฟย หม่อมฉันผิวกายหยาบกร้าน ไม่เหมาะกับยาดีๆ เช่นนี้”
“ยาเอาไว้ใช้กับผู้ที่ต้องการ ข้าสบายดีอยู่เช่นนี้ ขืนเก็บไว้ก็เสียของเปล่า อย่าคิดมาก ต่อไปก็ไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้อีก”
อินชิงเสวียนพยุงนางขึ้น มองไปยังดวงตาที่บวมแดงของจังอวี้จิ่น เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นในใจ
“เสื้อผ้าเหล่านี้ก็ให้พวกนางซักไปเถอะ สองวันนี้เจ้าไม่ต้องเข้าเวรแล้ว ดูแลตัวเองให้ดี”
แววตาของอินชิงเสวียนอ่อนโยนมาก ครู่หนึ่งจังอวี้จิ่นรู้สึกราวกับแววตาของมารดาตัวเอง ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าลำคอตีบตัน
กุ้ยเฟยใจดีกับนางมาก แต่นางเกือบฆ่าลูกของนาง สมควรตายจริงๆ
จังอวี้จิ่นไม่ใช่คนใจร้ายตั้งแต่แรก นางเพิ่งได้ยินชื่ออินสิงอวิ๋น จิตใจจึงมืดบอดด้วยความเกลียดชังไปชั่วขณะ เป็นเหตุให้กระทำสิ่งที่ผิดเช่นนั้น
เมื่อเห็นอินชิงเสวียนห่วงใยตัวเองมากขนาดนี้ นางก็ไม่สามารถแบกรับความรู้สึกผิดในใจได้อีกต่อไป และคุกเข่าลงตุบ
“หม่อมฉันสมควรตาย ทุกอย่างเป็นความผิดของหม่อมฉัน ข้าเกือบจะทำให้องค์ชายน้อยตายแล้ว”
อินชิงเสวียนเลิกคิ้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...