สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 567

ครึ่งชั่วยามต่อมา เย่จิ่งหลานก็มาถึงตำหนักจินหวู

อินชิงเสวียนกำลังจูงเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงพาฝึกเดินอยู่ เมื่อนางเห็นเย่จิ่งหลาน นางก็ส่งเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงให้กับอวิ๋นฉ่ายทันที

“ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว”

เย่จิ่งหลานเดินไปหาเสี่ยว‍หนาน‍เฟิง บีบแก้มนุ่มนิ่มของเขาเบาๆ

“ได้ยินทหารองครักษ์บอกว่าพระสนมส่งคนมาหาข้าก่อนหน้านี้ แต่ข้าไม่เห็นเขา ไม่อย่างนั้นคงมาที่นี่นานแล้ว”

“ไม่เห็นหรือ”

อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จนป่านนี้องครักษ์ยังไม่กลับมา หรืออาจมีบางอย่างเกิดขึ้น

แต่พอนึกดูอีกที วรยุทธ์ของทหารองครักษ์ไม่ได้อ่อนแอ ไม่น่าจะเกิดเรื่องขึ้น บางทีอาจถูกฝ่าบาทรั้งตัวไว้ ให้ไปทำธุระอื่น

ไม่ว่าอย่างไร เย่จิ่งหลานมาถึงก็ดีแล้ว

“ช่างเถอะ อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย ข้าหาเจ้ามาเพื่อถามว่าเจ้ารู้ภาษาอื่น เช่นภาษาญี่ปุ่นหรือไม่”

หลังจากได้ยินสิ่งที่อินชิงเสวียนพูด เย่จิ่งหลานก็ตกตะลึง ไม่มีทาง อินชิงเสวียนคงไม่สามารถคาดเดาความคิดของเขาได้กระมัง ระบบของนางยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยหรือ

“เอ่อ พอรู้นิดหน่อย เจ้าถามทำไม”

จากนั้นเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็หยิบของว่างขึ้นมากินอย่างไม่เกรงใจ

“เรื่องเป็นอย่างนี้...”

อินชิงเสวียนเล่าเรื่องที่ถูกคนตัวเตี้ยโจมตีให้เย่จิ่งหลานรู้ รวมถึงเรื่องที่จับไปขังไว้ในคุกหลวง

จู่ๆ เย่จิ่งหลานก็แสดงท่าทีสนใจ

“แน่ใจหรือว่าพวกเขาพูดภาษาญี่ปุ่น”

“แน่ใจ แม้ไม่เคยกินหมู แต่ก็เคยเห็นหมูวิ่ง”

“พาข้าไปดูหน่อย”

อินชิงเสวียนไม่พูดพร่ำทำเพลง นางพาเย่จิ่งหลานไปยังคุกหลวง

หลังจากเดินผ่านทางเดินมืดๆ ชื้นๆ ก็มามาถึงห้องขังที่คนผู้นั้นถูกควบคุมตัว อินชิงเสวียนชี้ไป

“คนผู้นั้นอย่างไรล่ะ”

ในห้องขัง ชายร่างเตี้ยถูกมัดด้วยโซ่เหมือนข้าวต้มมัด นั่งอยู่ตรงมุมห้อง

เย่จิ่งหลานมองดูอย่างพิจารณา แล้วพูดว่า “ลักษณะเหมือนพวกเขาจริงๆ”

แล้วเขาก็ถามว่า “เจ้าน่ะ มาอะไรทำ”

อินชิงเสวียนพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง สำเนียงคลาสสิคนี้ต้องมาจากบทภาพยนตร์ต่อต้านสงครามที่เขาชมมากเกินไป ถ้าเย่จิ่งหลานรู้เพียงเท่าก็คงไม่มีประโยชน์

ชายตัวเตี้ยไม่รู้ภาษาโจว และไม่เข้าใจสิ่งที่เย่จิ่งหลานพูด เขายังคงจ้องมองทั้งสอง หรือพูดให้ถูกกว่านั้นคือจ้องอินชิงเสวียน

เย่จิ่งหลานจุ๊ปาก แล้วพูดว่า “ไอ้ขยะนี่ตาถึงทีเดียว รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในต้าโจวเรา”

อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา

“เจ้าจะจริงจังได้เมื่อไหร่”

เย่จิ่งหลานไพล่หลัง ก้มตัว มองชายร่างเตี้ยราวกับมองลิง

“อ่าใจร้อนสิ ขอข้าชื่นชมสักหน่อย ชาวญี่ปุ่นสมัยโบราณกับปัจจุบันต่างกันอย่างไร”

“มีอะไรน่าดู ก็น่าขยะแขยงเหมือนกันหมดไม่ใช่หรือ”

เย่จิ่งหลานพยักหน้าเห็นด้วย

“ไม่มีความแตกต่างเลยจริงๆ ถ้าจะพูดตามตรง ก็คือคนที่ยังไม่เจริญเหล่านี้ไร้มนุษยธรรมยิ่งกว่าคนญี่ปุ่นในสมัยปัจจุบันเสียอีก เฮ้อ ถ้าไม่ใช่เพราะมิติไม่ห้าม ข้าอยากจะจับพวกเขาไปผ่าดูข้างในจริงๆ ดูว่าสีเลือดโสมมเหล่านี้มีสีอะไร”

เมื่อฟังเรื่องไร้สาระของเย่จิ่งหลาน ความอดทนของอินชิงเสวียนก็เกือบจะหมดลง นางกำลังจะถามเขาว่าตกลงจะพูดได้หรือไม่นั้น ก็ได้ยินเย่จิ่งหลานพูดอะไรบางอย่างที่นางไม่เข้าใจ

ดวงตาของชายร่างเตี้ยสว่างขึ้น เขามองไปที่เย่จิ่งหลานแล้วสนทนาอะไรบางอย่าง

เย่จิ่งหลานเริ่มพูดคุยกับเขา แต่อินชิงเสวียนไม่เข้าใจ นางอดกังวลไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์