เมื่อชายร่างเตี้ยคนอื่นเห็นเพื่อนถูกแทง ก็รีบเข้าไปช่วยเหลือทันที อะบิโกะชินจิก็เดินออกจากห้อง
เขาฝึกฝนวิชาชั่วร้าย กินหัวใจของคนเพื่อบำรุงกำลัง นอกจากนี้ยังจะหาหัวใจหมูหัวใจสุนัขยัดกลับเข้าไปแทน แล้วเย็บด้วยด้าย หากจะพูดให้สละสลวยก็คือ เพื่อทำให้พวกเขามีอวัยวะครบสมบูรณ์หลังความตาย
ในเวลานี้ เขาได้เติมกำลังด้วยหัวใจของคนสามคนแล้ว ดวงตาเป็นประกายราวกับกระดิ่งทองแดง
เจวี๋ยอิ่งรู้ว่าคนผู้นี้ร้ายกาจเพียงใด จึงเอ่ยเตือนทันที
“คุณชายใหญ่อินระวังด้วย!”
ครั้งที่แล้วองครักษ์เงาหลายคนพ่ายแพ้ให้แก่คนผู้นี้
อินสิงอวิ๋นพยักหน้า จากนั้นกระชับกระบี่ แล้วแทงใส่อะบิโกะชินจิทันที
อะบิโกะชินจิหัวเราะลั่น ไม่หลบหลีกแต่อย่างใด ยอมให้กระบี่แทงใส่ร่าง
เมื่อปลายกระบี่สัมผัสกับหน้าอก กลับเกิดเสียงที่กริ๊งราวกับโลหะกระแทกผนังทองแดงกำแพงเหล็กเหมือนครั้งที่แล้ว
นัยน์ตาของอินสิงอวิ๋นฉายแววพรั่นพรึง ออกแรงส่งจากปลายเท้าถอยหลังออกไปหลายจั้ง จากนั้น เสียงกรีดร้องดังขึ้นสองครั้ง องครักษ์อีกสองคนถูกกระแทกลงกับพื้น
“คนพวกนี้เป็นใคร”
อินสิงอวิ๋นขมวดคิ้วถาม
นับตั้งแต่ที่เขาอาบน้ำที่อินชิงเสวียนนำมา อินสิงอวิ๋นรู้สึกราวกับว่ากำลังภายในของตัวเองพัฒนาขึ้น ไม่ว่าอาวุธใดๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา
ไม่นึกว่าวันนี้พอได้ต่อสู้เป็นครั้งแรก กลับต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่รับมือได้ยากเพียงนี้ ความมั่นใจที่รู้สึกมาตลอดก็หายไปทันที
เจวี๋ยอิ่งกล่าวอย่างรวดเร็ว “จากการสอบสวน พวกเขาน่าจะเป็นนักรบลึกลับจากแคว้นตงหลิว คนเหล่านี้มีวรยุทธ์ที่แปลกประหลาดและร้ายกาจมาก แต่ละคนก็มีจุดแข็งของตัวเอง คุณชายใหญ่อย่าดูถูกศัตรูเด็ดขาด ก่อนหน้านี้องครักษ์เงาหลายคนก็เคยพ่ายแพ้ให้กับพวกเขา”
อินสิงอวิ๋นไม่รู้จักเจวี๋ยอิ่ง โดยปกติจะอยู่ข้างกายฮ่องเต้ ไม่ค่อยออกจากวัง แต่เขารู้ว่าราชองครักษ์เงาเก่งกาจเพียงใด เขาจึงเพิ่มการป้องกันอีกหลายส่วน
“คนพวกนี้มาปรากฏตัวในเมืองหลวงได้อย่างไร”
คำว่าตงหลิวนี้ อินสิงอวิ๋นรู้สึกไม่คุ้นเคยเลย
“ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด คนเหล่านี้บุกเข้าไปในวังเมื่อไม่กี่ชั่วยามที่แล้ว ฝ่าบาทจึงมีรับสั่งว่าต้องสังหาร”
เจวี๋ยอิ่งพูดเร็วๆ แล้วกระแทกดาบยาวของชายร่างเตี้ยออกไปในคราวเดียว ช่วยองครักษ์จากคมดาบไว้ได้
ในเวลานี้ อินจ้งก็มาถึงที่ประตูเช่นกัน
จูอวี้เหยียนนั่งอยู่ไกลๆ ขณะที่มองชายร่างเตี้ยเหล่านี้นางก็กลอกตาไปด้วย
แม้แต่อินสิงอวิ๋นยังไม่สามารถจัดการได้ คนพวกนี้น่าสนใจจริงๆ หากสามารถใช้การได้...
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินอินจ้งตะโกน “สิงอวิ๋น ระวัง”
เมื่อเห็นดาบยาวแทงใส่ร่างของลูกชายอย่างเงียบๆ อินจ้งก็กระโดดข้ามกำแพงทันที โจมตีฝ่ามือเข้าใส่คนผู้นั้น ทว่าชายร่างเตี้ยฉวยจังหวะนี้ ฟาดฟันไปยังอินจ้งทันที
“ท่านพ่อ!”
อินสิงอวิ๋นกลับบ้านมานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เรียกเขาว่าท่านพ่อ
อินจ้งรู้สึกมีความสุขในใจ ตัวเขาเป็นผู้มีประสบการณ์การต่อสู้มาอย่างโชกโชน รู้ว่าเวลานี้จะวอกแวกไม่ได้ เขากลิ้งหลบปลายดาบ แล้วดึงกระบี่ยาวจากมือขององครักษ์ที่ตายแล้ว
พวกเขาทั้งสามถือเป็นยอดฝีมือ เมื่อรวมกับทหารองครักษ์และไป๋เสวี่ย จึงทำให้ชายร่างเตี้ยต้องปวดเศียรเวียนเกล้า
อะบิโกะชินจิพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ไดโชมารุ พวกเจ้าไปก่อน ข้าจะจัดการกับเศษสวะพวกนี้เอง”
ไดโชมารุเป็นหัวหน้าของพวกเขา เมื่อเห็นทหารองครักษ์รวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิด ขืนยังเปลืองแรงต่อไป ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่หมดแรง ภารกิจของพวกเขาที่มายังที่นี่คือการค้นหาพิณการเวก หากภารกิจไม่เสร็จสิ้น เมื่อกลับไปพวกเขาต้องทำฮาราคีรีคว้านท้องปลิดชีพตัวเองเพื่อรับผิด
ตอนนี้คุนิโกะ อิโนะกุจิก็ถูกจับตัวไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถสูญเสียคนไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
“ถอย”
เขาตะโกนเป็นภาษาตงหลิว จากนั้นปล่อยควันออกมา และทุกคนก็ใช้วิชาหลบหนีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...