“เย่จิ่งหลาน!”
อินชิงเสวียนออกมาจากมิติ เย่จิ่งหลานก็ได้จับตัวอาซือหลานไปแล้ว
เป่าเล่อเอ่อร์กำลังซ่อมตัวอยู่ในบ้าน เมื่อได้ยินเสียงก็รีบวิ่งออกมาทันที
เมื่อเห็นอินชิงเสวียนเลือดไหลเต็มตัวก็ตกใจอย่างมาก และรีบวิ่งเข้ามาพยุงนางไว้
“คุณหนู ท่านเป็นอะไรมากหรือไม่ ข้าจะไปตามหมอมาให้”
เป่าเล่อเอ่อร์และอินชิงเสวียนไม่รู้จักตัวตนของกันและกัน จึงคิดว่านางเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่สักครอบครัวหนึ่ง
อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตาย จึงกัดฟันพูดว่า “ไม่ต้องหรอก รบกวนเจ้าช่วยจูงม้ามาให้ข้าด้วย”
เป่าเล่อเอ่อร์มือเท้าเป็นระวิง นางไม่รู้ว่าควรช่วยอินชิงเสวียนอย่างไรดี จึงทำได้เพียงทำตามคำสั่งเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าเจ้านายมีเลือดไหลท่วมตัว หนิงซวงก็ร้องหวยโหยออกมาด้วยความเจ็บปวด มันรีบงอขาหน้าเพื่อให้อินชิงเสวียนปีนขึ้นมา
อินชิงเสวียนพยายามใช้แรงปีนขึ้นหลังม้า เลือดสดทำให้ขนของหนิงซวงแดงเถือกไปทั้งตัว
“ส่งข้ากลับไปที่พระราชวังเถอะ!”
อินชิงเสวียนพูดจบก็ตักน้ำพุวิญญาณมาหนึ่งขวดและดื่มมันลงไป โดยไม่สนใจว่าเป่าเล่อเอ่อร์จะตกใจ
รักษาชีวิตเอาไว้ก่อน เรื่องอื่นๆ ต่างไม่สำคัญ
หนิงซวงร้องฮี้เสียงยาว ยกกีบม้าและวิ่งออกไป
อินสิงอวิ๋นไล่ตามคนกลับมา เมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนมีเลือดไหลท่วมตัว จึงรีบใช้วิชาตัวเบาตามไป
“น้องใหญ่ น้องใหญ่!”
แม้อินสิงอวิ๋นไม่มีความทรงจำต่อคนในครอบครัว แต่เส้นเลือดที่ไหลอยู่ในร่างกาย กลับไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
เมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนได้รับบาดเจ็บ อินสิงอวิ๋นไม่สนใจชุดในยามราตรีอีกแล้ว เขากระชากหน้ากากออกแล้ววิ่งตามไป
ด้วยระยะทางที่ใกล้เช่นนี้ อินชิงเสวียนจึงจำอินสิงอวิ๋นได้ในที่สุด และจำชุดในยามราตรีนั่นได้ด้วยเช่นกัน
“คนเมื่อครู่... คือท่านพี่งั้นหรือ?”
“เรื่องเหล่านี้ค่อยคุยกันคราวหลัง บาดแผลของเจ้าสาหัสหรือไม่?”
ม้าควบด้วยความว่องไว อินสิงอวิ๋นใช้วิชาตัวเบาตามประกบข้าง หนิงซวง และคุ้มครองน้องสาวตลอดทาง
เมื่อเห็นสีหน้าที่รีบร้อนของอินสิงอวิ๋น อินชิงเสวียนก็ฉีกยิ้มออกมา
“ขอบคุณพี่ใหญ่ ข้าไม่เป็นไร”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย รีบเข้าวังไปตามหาหมอหลวงเถอะ”
เมื่อเห็นร่างม้าเต็มไปด้วยสีแดง อินสิงอวิ๋นก็ยิ่งร้อนใจ
อินชิงเสวียนผ่อนลมหายใจแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ ข้าตายไม่ได้หรอก พี่ใหญ่คงอยากรู้สินะว่าผู้ใดโจมตีข้า?”
อินสิงอวิ๋นกลัวปากแผลนางจะขยับ จึงออกแรงพูดว่า “อย่าได้พูดเลย รอให้เจ้าหายดีก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
อินชิงเสวียนรู้ว่าตัวเองตายไม่ได้ บาดแผลสาหัสมากเพียงใด หากดื่มน้ำพุวิญญาณต่างก็ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ก้านใบพัดทั้งทั้งสองชิ้นไม่ได้กระทบจุดสำคัญใดๆ เลย
จึงจงใจพูดอย่างกระหืดกระหอบว่า “ข้ากลัวว่าหากไม่พูด... ก็อาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว... ยิ่งไม่ต้องการให้พี่ใหญ่ถูกผู้อื่นหลอกใช้ ผู้ที่ทำร้ายข้าก็คือ... อาซือหลาน!”
“จริงหรือ?”
อินสิงอวิ๋นถามเสียงเข้ม ความเร็วลดน้อยลงครึ่งหนึ่ง
“ท่านเป็นพี่ใหญ่ของข้า ข้าจะโกหกท่านได้อย่างไร?”
อินชิงเสวียนกัดฟัน แต่ความเจ็บปวดนั้นมากเกินบรรยายจริงๆ
อินสิงอวิ๋นพยักหน้า
“เจ้าไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว พี่ใหญ่รู้แล้ว ข้าจะช่วยเจ้าแก้แค้นให้ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...