สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 615

อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว ดุด้วยเสียงทุ้มต่ำ “อย่าเห่าสิ”

ทันใดนั้นไป๋เสวี่ยก็ดูเหมือนไม่ค่อยสบายใจ ครางหงิงๆ บนพื้น หันกลับมาอยู่หลายครั้ง แล้วก็เห่าขึ้นอีก จากนั้นก็พลางเห่าพลางเดินถอยหลัง

อินชิงเสวียนรู้สึกพิศวงงงงวย ไป๋เสวี่ยฉลาดมาก อารมณ์ก็มั่นคงพอสมควร ปกติไม่ค่อยส่งเสียงเช่นนั้น เว้นแต่ต้องการน้ำพุวิญญาณ หรือเมื่อรู้สึกดีใจเป็นพิเศษ

จึงลุกขึ้นแล้วถามว่า “เจ้าเป็นอะไรไป”

ไป๋เสวี่ยส่งเสียงคำรามต่ำๆ ในลำคอ ราวกับพูดอะไรบางอย่าง ดวงตาฉายแววกังวลอยู่บ้าง แถมยังกระดิกหางใหญ่ปุกปุยไม่หยุด

ยายหลี่และอวิ๋นฉ่ายก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

อินชิงเสวียนก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว แล้วไป๋เสวี่ยวิ่งออกจากห้องโถงกลาง และยืนส่งเสียงเห่าที่ประตู

อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย นางก็รีบเดินตามไปที่ประตู ในขณะที่เจ้าสุนัขก็วิ่งออกจากตำหนักไปอีก

อินชิงเสวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มันอาจต้องการพาข้าไปที่ไหนสักแห่ง ข้าจะตามไปดูหน่อย พวกเจ้าดูแลเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงให้ดีนะ”

“แต่สุขภาพของพระสนม...”

ยายหลี่วิ่งตามไปด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร ทำตามที่ข้าบอก!”

อินชิงเสวียนกระชับเสื้อคลุมกันลมไว้แน่น แล้ววิ่งตามไป๋เสวี่ยออกจากตำหนัก

ในเวลานี้ อาซือหลานและเย่จั้นมาถึงชานเมืองหลวงแล้ว

ตอนนี้เป็นฤดูหนาว ต้นไม้ใบหญ้าในป่าเหี่ยวเฉาเป็นสีเหลืองกรอบ สายลมหนาวส่งเสียงหวีดหวิว ร่างสองร่างยืนเผชิญหน้ากัน ร่างหนึ่งสวมชุดสีขาวพลิ้วไหว ราวกับเทพเซียนที่มาจุติยังโลกมนุษย์ ส่วนอีกร่างสวมชุดคลุมผ้าไหมสีม่วง ทำให้ดูโอ่อ่าน่าครั่นคร้าม

ซึ่งคนที่เผชิญหน้ากันครั้งนี้คือ เย่จั้นและอาซือหลาน

ในพงหญ้าข้างๆ มีชายร่างเตี้ยสองคนกำลังนั่งหมอบอยู่ จ้องมองไปที่พวกเขาทั้งสองเขม็ง

พวกเขาสองคนนั้นคือคนตงหลิวที่ถูกเย่จิ่งหลานหลอก

นอกจากพวกเขาทั้งสองแล้ว ยังมีสตรีคนหนึ่งสวมผ้าคลุมสีดำยืนอยู่อีกด้าน

สตรีคนนั้นไม่ได้ปิดบังใบหน้า เผยให้เห็นดวงตาที่แปลกใหม่คู่หนึ่ง

นางผู้ที่เพิ่งติดตามรหัสลับมาพบถึงที่นี่ ก็คือฟางรั่ว

ซึ่งอาซือหลานมองเห็นนางแล้ว มุมปากกระตุกขึ้นอย่างเหยียดหยาม

ก็แค่สุนัขที่เขาฝึกฝนเลี้ยงดู แม้ว่าสุนัขตัวนี้จะบ้าคลั่งเพราะการเลี้ยงดูของเขา แต่ก็ไม่สามารถทำร้ายเจ้าของได้

“ฟางรั่ว ถ้าต้องการมาหาข้า ก็เข้าแถวรอได้เลย”

เมื่อได้ยินเสียงที่เย็นชาและดูถูกเหยียดหยาม ฟางรั่วก็กัดริมฝีปากอย่างแรง

งั้นก็รอก่อนดีกว่า ในเมื่อนางสามารถตามหามาจนถึงที่นี่ได้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อน

ด้านหลังเนินที่อยู่ไม่ไกลนัก เป็นเจวี๋ยอิ่งและคนอื่นๆ ที่กำลังซุ่มโจมตีอยู่

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกีบม้า เย่จิ่งอวี้ที่สวมชุดเกราะอ่อนก็มาถึงที่นี่พร้อมกับหน่วยองครักษ์เงา

ซึ่งคนที่แจ้งให้เย่จิ่งอวี้ทราบว่าย้ายตำแหน่ง คือองครักษ์เงาที่เจวี๋ยอิ่งทิ้งไว้ข้างหลัง

“ฝ่าบาท”

เจวี๋ยอิ่งเดินออกไปทันที

“คนอยู่ข้างหน้านี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เย่จิ่งอวี้พยักหน้า

“ล้อมพวกเขาไว้ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไร ก็ห้ามไม่ให้คนเหล่านี้หลบหนีออกจากเมืองหลวงได้”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เจวี๋ยอิ่งโบกมือ องครักษ์เงามากกว่าห้าสิบนายติดตามเขาไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์