สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 664

เมื่อดื่มน้ำชาหมดกาแล้ว เย่จิ่งอวี้จึงกลับเข้าห้อง

เขานั่งขัดสมาธิบนเตียง เคลื่อนไหวกำลังภายใน ปรับตัวเองอยู่ในสภาวะที่ดีที่สุด ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ต้องออกไปจากเป่ยไห่ให้ได้

เพียงพริบตาเดียว ท้องฟ้าก็เริ่มมืด

สภาพอากาศริมทะเลเปลี่ยนแปลงอย่างไม่อาจคาดเดาได้ พระอาทิตย์เพิ่งตกสู่พื้นดิน ลมทะเลเริ่มโหมกระหน่ำ

กลิ่นเค็มค่อยๆ พัดมาจากริมทะเล และบางครั้งอาจได้ยินเสียงคลื่นยักษ์กระทบโขดหิน

ช่วงเวลาเที่ยงคืน เงาดำที่ทอดยาวบินออกจากด้านหลังต่างของโรงเตี๊ยม และหายเข้าไปในยามราตรีทันที

ผู้นี้ก็คือฮ่องเต้เย่จิ่งอวี้ผู้ปกครองแผ่นดิน

เขาใช้เวลาหลายวันในการตรวจดูเส้นทางไปจากเป่ยไห่ และเวลาที่แน่ชัดในการลาดตระเวนของลูกศิษย์แต่ละสำนัก

ขอเพียงคลาดเวลาที่ยืนยาวนี้ไปได้ ก็จะสามารถออกไปจากสถานที่บ้านี่ได้เช่นกัน

เย่จิ่งอวี้ใช้วิชาตัวเบา หมอบอยู่บนหลังคาราวกับแมว เมื่อถึงประตูลานกว้างของเป่ยไห่ ปรากฏว่าพบลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาจากปากทาง คนเหล่านี้ถือดาบในมือทุกคน ท่าทางราวกับเผชิญหน้ากับข้าศึก

การแต่งกายก็แตกต่างกัน ซึ่งมองออกว่ามาจากต่างสำนักกัน

เมื่อนึกถึงฝีมือที่แปลกประหลาดของผีแคระตงหลิว คิ้วคมของเย่จิ่งอวี้ก็ขมวดเล็กน้อย สิ่งเหล่านั้นช่างน่าขยะแขยงยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะเป็นห่วงอินชิงเสวียน เขาอาจจะอยู่ต่อที่นี่เพื่อต่อสู้กับตงหลิวร่วมกับทุกคน

แต่ตอนนี้ เขาจำเป็นต้องกลับเมืองหลวงก่อน เพื่อรายงานความปลอดภัย

ระหว่างที่ครุ่นคิด ลูกศิษย์อีกกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามา ช่วงห่างของทั้งสองกลุ่มมีเวลามีเพียงห้าลมหายใจเท่านั้น

หากใช้วิชาร่างของเขาผ่านไปคงไม่มีปัญหา แต่จะถูกจับได้อย่างแน่นอน พวกลูกศิษย์เหล่านี้ไม่ได้มีผลมากนัก แต่หากถูกผู้เฒ่าที่สวมหน้ากากจับตัวได้ ต้องเกิดการต่อสู้กันอย่างแน่นอน

เย่จิ่งอวี้เป็นฮ่องเต้มาหนึ่งปี เขาไม่ใช่เด็กน้อยในตอนนั้นอีกแล้ว นิสัยใจคอนิ่งสงบขึ้นมาก

เขาผ่อนลมหายใจลง และรอคอยด้วยความอดทนอย่างมาก เพื่อหาโอกาสที่เหมาะสมที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์