โมริตะคาวาสึบาเมะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทว่าใบหน้ากลับแสดงสีหน้าชื่นชม
“คิดไม่ถึงว่าคณะก้งฉิงแห่งฮว๋าเซี่ยจะมีศิษย์มากมายขนาดนี้ แต่พูดตามตรง สำนักนี้ของคุณชาย เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยได้ยิน”
เย่จิ่งหลานเชิดหน้าขึ้นพูดว่า “คนหูตาคับแคบเช่นเจ้า จะไม่เคยได้ยินก็ไม่แปลก”
ทันใดนั้นสีหน้าของโมริตะคาวาสึบาเมะก็เริ่มบิดเบี้ยวเหยเก
เจ้าเด็กเปรตนี่ กล้าฉีกหน้าเขาแบบนี้ ถ้าเขาไม่ต้องการตีสนิทเขา คงจะส่งเขาไปพบยมบาลด้วยฝ่ามือเดียวแล้วแน่ๆ
เย่จิ่งหลานถามอย่างไม่อินังขังขอบ “ไม่ทราบว่าน้องชายคนนี้เป็นศิษย์ของสำนักอะไร”
โมริตะคาวาสึบาเมะประกบมือคำนับแล้วพูดว่า “ข้าน้อยมาจากสำนักอวิ๋นชวนเยี่ยนหาง ได้ยินเรื่องการต่อสู้ในเป่ยไห่ จึงอยากจะมาช่วยอีกแรงโดยเฉพาะ เพียงแต่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่คุ้นเคยทั้งผู้คนและสถานที่ หวังว่าคุณชายน้อยจะช่วยดูแลด้วย”
เย่จิ่งหลานก็ไม่เคยได้ยินชื่อสำนักของเขา แต่น้ำเสียงคำพูดของเขา ฟังดูไม่เหมือนเด็กอายุไม่กี่ขวบอย่างแน่นอน
เขายิ้มแล้วพูดว่า “แน่นอน”
โมริตะคาวาสึบาเมะดีใจ ในความเห็นของเขา เย่จิ่งหลานเป็นเพียงเด็กอายุไม่กี่ขวบ ย่อมถูกหลอกได้ง่ายอย่างไม่ต้องสงสัย
“ยังต้องรบกวนพี่ชายน้อยแนะนำข้าให้สำนักที่ประจำการอยู่ด้วย จะได้ไปเยี่ยมเยียนทีละคน”
เย่จิ่งหลานส่ายหัวแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ยุ่งยาก ลำพังคณะก้งฉิงแห่งฮว๋าเซี่ยของเราเพียงแห่งเดียวก็มีคนมากกว่าห้าหมื่นคนอยู่ที่นี่ ส่วนที่เหลือก็มีสำนักกระบี่สังหาร หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ สำนักเทียนหยวนและอีกหลานสำนักใหญ่ๆ”
โมริตะคาวาสึบาเมะพยักหน้า สำนักเหล่านี้เขาก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน
“เหล่านี้ล้วนเป็นเสาหลักที่มีคุณธรรมดีเด่น มีชื่อเสียงมีผลงานยิ่งใหญ่และเป็นที่นับถือของยุทธจักร สมควรแก่การคารวะ ไม่ทราบว่าคณะก้งฉิงแห่งฮว๋าเซี่ยอยู่ที่ไหน ข้าควรเตรียมของขวัญล้ำค่า ไปเข้าเยี่ยมคารวะ”
เย่จิ่งหลานโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่จำเป็น เจ้าสำนักของเราไม่พบคนนอกมาแต่ไหนแต่ไร”
“นี่...แล้วข้าจะแสดงความเคารพได้อย่างไร”
โมริตะคาวาสึบาเมะถามอย่างนอบน้อม
เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณชายน้อยคนนี้ จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดบนโต๊ะทั้งสองนี้ นอกจากนี้ข้ายังต้องห่อบางส่วนกลับไปด้วย”
โมริตะคาวาสึบาเมะยิ้มอย่างใจกว้างพูดว่า “ไม่มีปัญหา”
อาหารและสุราสองโต๊ะจะราคาเท่าไหร่กันเชียว ในไม่ช้า เขาก็พบว่าตัวเองคิดง่ายเกินไป
เย่จิ่งหลานไม่เพียงแต่สั่งเนื้อวัวราดซีอิ๊วห้าสิบจานเท่านั้น แต่ยังสั่งไก่นึ่งห้าสิบหม้อ และปลาห้าสิบชุดด้วย
พ่อค้าแม่ขายที่ทำธุรกิจบนชายฝั่งเป่ยไห่ต่างก็วิ่งหนีหายไปหมดแล้ว ทำให้ราคาอาหารเหล่านี้สูงขึ้น ซึ่งอาหารเหล่านี้ราคาสูงถึงสี่ร้อยตำลึง ใบหน้าของโมริตะคาวาสึบาเมะก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวขุ่นทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...