สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 818

อีกประเดี๋ยวต้องออกลาดตระเวนกลางคืน ทั้งสองจึงไม่ได้ไปที่โต๊ะหลักของเจ้าสำนักเซี่ยว

ฮวาเชียนเตรียมโต๊ะสุราอาหารให้สองพี่น้องตระกูลเย่ อินชิงเสวียนกับสาวใช้ รวมถึงโมริตะคาวาสึบาเมะและคนอื่นๆ ไว้โดยเฉพาะ

เมื่อมองไปที่สุราอาหารบนโต๊ะใหญ่นี้ เย่จิ่งหลานก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

ยัยเด็กบ้านี่มีน้ำใจทีเดียว ทุกสิ่งที่เขาต้องการก็ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย

นอกจากนี้ยังมีอาหารบางจานที่เขาไม่เคยชิมมาก่อน มองแวบแรกก็รู้ว่าอาหารสมัยใหม่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องลองชิมทุกอย่าง เขาจึงหยิบตะเกียบขึ้นมา และลงมือกินทันที

แม้ว่าโมริตะคาวาสึบาเมะจะอยู่ในจงหยวนมานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นอาหารที่ซับซ้อนมากมายขนาดนี้มาก่อน เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารในตงหลิว มันต่างกันราวฟ้ากับเหว

เดิมทีสิ่งเหล่านี้ควรจะเป็นของพวกเขา แต่ชาวจงหยวนเหล่านี้หาข้ออ้างขึ้นมาส่งเดช ขับไล่ไสส่งพวกเขาไปที่เกาะ ปล่อยให้ใช้ชีวิตตามยถากรรม

โมริตะคาวาสึบาเมะยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น คีบไก่ผักพริกเข้าปาก แล้วเคี้ยวหยับๆ

หวังซุ่นนั่งอยู่ข้างโมริตะคาวาสึบาเมะ กลิ่นหญ้าเทียนเหลี่ยวก็โชยเข้าจมูก จึงอดไม่ได้ที่จัมองโมริตะอีก

โมริตะคาวาสึบาเมะถือจอกสุรา พูดด้วยรอยยิ้ม “พี่หวังซุ่น ข้าขอดื่มให้เจ้า วันหน้าได้โปรดดูแลข้าด้วย”

หวังซุ่นรีบลุกขึ้นชนแก้วกับเขา

“ได้เลย”

โมริตะคาวาสึบาเมะหัวเราะ ก้มหน้าดื่มสุรา

หวังซุ่นแอบชำเลืองมองเขาอีกครั้ง ในใจรู้สึกกังขาเล็กน้อย

ตงหลิวอุดมไปด้วยหญ้าเทียนเหลี่ยวก็จริง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าในจงหยวนมีหญ้าเทียนเหลี่ยวหรือไม่ นี่คือแขกผู้มีเกียรติของเจ้าสำนักเซี่ยว หากเกิดข้อผิดพลาด ชายชราจะต้องขับไล่เขาออกไปแน่ๆ

หลังจากครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็เก็บคำพูดกลับคืน

หาโอกาสบอกเย่จิ่งหลานดีกว่า จะได้บอกให้เขาระวังตัวหน่อย

ในขณะที่คิดเรื่องนี้ เย่จิ่งอวี้กับอินชิงเสวียนก็ลุกขึ้นยืนแล้ว

เย่จิ่งอวี้ถือจอกสุราไว้ในมือ แล้วพูดด้วยเสียงอันดัง “ศิษย์พี่น้องทั้งหลายเชิญให้เต็มที่ ข้ากับเสวียนเอ๋อร์ต้องไปลาดตระเวนก่อน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์