เย่จิ่งหลานนำหนังสือการ์ตูนมาให้เขา หวังซุ่นรับไปด้วยรอยยิ้ม และเริ่มอ่านด้วยความเพลิดเพลิน
ขณะที่ทั้งสองกำลังพักฟื้นอยู่ในมิติ เย่จิ่งอวี้กับอินชิงเสวียนก็ถูกพาไปที่โรงเตี๊ยม
ชั้นล่างยังมีลูกค้าร่ำสุรากันเสียงดัง ได้ยินเสียงคนเล่นเกมดื่มเหล้าเป็นครั้งคราว แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นคนที่เหาะขึ้นไปชั้นบน
ฮั่วเทียนเฉิงวางทั้งสองคนบนเตียงข้างๆ กัน ตรวจสอบลมหายใจ ทั้งสองยังคงหายใจอยู่
คิดไม่ถึงว่าจะมีคนฝึกฝนวิชาเนตรที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้ หากเขาไม่สังเกตเห็นก่อน คงต้องตกหลุมพรางของคู่ต่อสู้ไปแล้ว
ครั้งนี้ยังตรวจไม่พบแหล่งที่มาของน้ำพุวิญญาณได้ แต่ได้ช่วยชีวิตคู่สามีภรรยาไว้ได้ นับว่าไม่ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ฮั่วเทียนเฉิงก็ลอบโคจรกำลังภายใน แสงสีม่วงจางๆ ก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา
เขาวางมือบนหัวของเย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนตามลำดับ โคจรกำลังภายในเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของพวกเขา
วิทยายุทธ์ของแต่ละสำนักมีความแตกต่างกัน ฮั่วเทียนเฉิงจึงไม่กล้าถ่ายทอดกำลังภายในให้มากเกินไป เพื่อไม่ให้ทำเกินเหตุจนเสียเรื่อง และกลับกลายเป็นการทำร้ายพวกเขาทั้งสอง
ราวๆ สิบห้านาทีผ่านไป เย่จิ่งอวี้ฟื้นขึ้นก่อน
“เสวียนเอ๋อร์!”
เขากรีดร้อง ผุดลุกขึ้นนั่งจากเตียง
แต่กลับเห็นอินชิงเสวียนนอนอยู่ข้างๆ ตัวเอง มีคราบเลือดอยู่ที่มุมปาก จึงรีบอุ้มนางขึ้นมา ร้องตะโกนอย่างกังวล “เสวียนเอ๋อร์ เสวียนเอ๋อร์!”
“เอ่อ...”
อินชิงเสวียนพึมพำเสียงแผ่วเบา และค่อยๆ ลืมตาขึ้น
เมื่อมองดูใบหน้าที่ยังเลือนรางนี้ นางถามอย่างลังเล “อาอวี้ พวกเรา...อยู่ในยมโลกหรือเปล่า”
“ไม่ต้องห่วง พวกเจ้ายังมีชีวิตอยู่”
มีเสียงอ่อนโยนดังมาจากข้างกายพวกเขา ทั้งสองหันหน้าไปพร้อมกัน คราวนี้พวกเขาพบชายวัยกลางคนยืนอยู่ข้างเตียง
“ท่านช่วยพวกเราไว้หรือ”
อินชิงเสวียนดึงมือออกจากมือของเย่จิ่งอวี้ มองไปที่ฮั่วเฉิงเทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...