สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 83

อวิ๋นฉ่ายอุทานอย่างตกใจ “พระสนม องค์ชายน้อยพูดอีกแล้ว!”

อินชิงเสวียนก็ได้ยินอย่างชัดเจน เจ้าหนูน้อยพูดออกมาสองคำว่า “อย่าไป”

นางกุมมือจ้ำม่ำของเจ้าหมาน้อย พลางกล่าวด้วยสีหน้าคาดหวังว่า “เด็กดี พูดให้แม่ฟังอีกครั้งสิ”

มองอินชิงเสวียนที่ยิ้มราวกับหมาป่าเจ้าเล่ห์ เจ้าหมาน้อยจึงเปิดปากเล็กๆ แล้วเปล่งเสียงพูด “ไม่ไม่ไม่...”

อินชิงเสวียนไม่ทันตั้งตัวก็ถูกพ่นน้ำลายจนเต็มหน้า

ช่างเถอะ นางคงคาดหวังกับเจ้าหมาน้อยสูงเกินไป

หากเด็กคนนี้สามารถพูดได้ คงถูกมองว่าเป็นปีศาจ

อินชิงเสวียนเช็ดหน้า ขบเบาๆ ที่มือของเจ้าหมาน้อย

“เจ้าเด็กดื้อ เป็นเด็กดีรอแม่อยู่ตรงนี้นะ แล้วพวกเราค่อยไปอาบน้ำกัน”

เจ้าหมาน้อยจั๊กจี้ตรงบริเวณที่ถูกขบ จึงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากขึ้นมา

เมื่อเห็นเขาอารมณ์ดี อินชิงเสวียนจึงรีบเข้าไปในห้อง

นางแลกแป้งทาผื่นคันมาตลับหนึ่ง ก่อนจะพบว่ามีเสื้อผ้าเด็กและรองเท้าขายในร้านค้าคะแนนสะสมด้วย

เมื่อก่อนเจ้าหมาน้อยสวมแต่ผ้าอ้อม จะมีเสื้อผ้าสวมใส่หรือไม่ก็ไม่สำคัญ แต่ตอนนี้เขาสามารถวิ่งด้วยรถฝึกเดิน หากจะให้เปลือยกายล่อนจ้อนก็คงจะไม่ดี

โดยเฉพาะรองเท้าที่เขาสวม เป็นรองเท้าที่ยายหลี่ทำขึ้นด้วยผ้าสองสามชิ้น เพื่อสวมบนเท้าเล็กๆ ที่เหมือนอุ้งเท้าหมีสองข้าง ยามวิ่งก็ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ทั้งดูน่าขันทั้งน่าเศร้าใจ

หากเจ้าของร่างเดิมบนสวรรค์ทราบว่าบุตรชายของตนถูกปฏิบัติเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะรู้สึกทุกข์ใจมากเพียงใด

อินชิงเสวียนถอนหายใจ ก่อนแลกเสื้อผ้าฝ้ายสำหรับเด็กให้เจ้าหมาน้อยหนึ่งชุด และรองเท้าเด็กพื้นนุ่มเป็นพิเศษหนึ่งคู่

ตอนจะออกก็นำผักผลไม้บางส่วนและข้าวสารกับแป้งสาลีออกมาด้วย เพื่อเป็นของตอบแทนอวิ๋นฉ่ายกับยายหลี่ นอกจากนี้ อินชิงเสวียนยังแลกเนื้อหมูแช่แข็งและเนื้อไก่ บวกน้ำพุวิญญาณหนึ่งอ่างใหญ่ ทำให้นางเหนื่อยจนหอบแฮ่กๆ

อวิ๋นฉ่ายได้ยินเสียงเจ้านายจึงรีบเข้าไปช่วยขนของ เมื่อเห็นเสื้อผ้าเด็กจึงกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “พระสนม เซียนอาวุโสมอบให้หรื”

“ใช่”

อินชิงเสวียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

อวิ๋นฉ่ายลูบไปที่เนื้อผ้า ก่อนอุทานว่า “นุ่มมาก ของของท่านเซียนช่างดีจริงๆ”

อินชิงเสวียนหัวเราะแล้วพูดว่า “อาบน้ำให้เจ้าหมาน้อยกันเถอะ วันนี้อากาศร้อนมาก เจ้ากับยายหลี่ต้องดื่มน้ำพุวิญญาณให้มากขึ้น จะได้เลี่ยงโรคลมแดด”

“เจ้าค่ะ”

อวิ๋นฉ่ายย้ายเนื้อและผลไม้ไปยังที่เย็น แล้วเทน้ำพุวิญญาณใส่อ่าง

เจ้าหมาน้อยเห็นน้ำก็รู้แล้วว่าจะได้อาบน้ำแล้ว ทันใดนั้นเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี

“หวาหวาหวา!”

เขาโบกกำปั้นน้อยๆ ไปมา ปากก็พูดงึมงำไม่รู้ภาษา

อวิ๋นฉ่ายเดินเข้ามากล่าวว่า “องค์ชายน้อย พระสนมขอเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ท่าน ยังมีรองเท้าด้วยนะ อาบน้ำเสร็จพวกเราจะสวมชุดใหม่ให้นะ”

ดวงตาสีดำเล็กๆ ของเจ้าหมาน้อยจ้องตาแป๋ว ก่อนจะคว้าชุดในมือแล้วอ้าปากกัด

อวิ๋นฉ่ายรีบแย่งชุดกลับมา “กัดไม่ได้เพคะ”

เจ้าหมาน้อยแบมือจ้ำม่ำออกแล้วพบว่าของหายไป ท้องเล็กเล็กพลันสั่นสะเทือน ก่อนจะเปล่งเสียงร้องไห้ออกมา

อินชิงเสวียนตกใจ นางรีบเดินเข้าไปอุ้มเจ้าหมาน้อยลงอ่าง

“ไม่ร้องนะ เรามาว่ายน้ำกันเถอะ”

เมื่อเจ้าหมาน้อยแตะน้ำ ขาป้อมๆ จึงเริ่มดีดขึ้นมา

แม้คราบน้ำตาจะเต็มหน้า ทว่าปากกลับโค้งขึ้นเล็กน้อย

อินชิงเสวียนถอนหายใจ นี่ต้องเป็นคนแบบไหนกันนะ ช้าเร็วนางคงถูกสองพ่อลูกคู่นี้ทำให้กลายเป็นบ้าเข้าสักวัน

ยายหลี่มองอวิ๋นฉ่ายแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “องค์ชายน้อยของพวกเราค่อนข้างเจ้าอารมณ์ เจ้าอย่าแย่งของไปดื้อ ต้องเกลี้ยกล่อมพระองค์”

กล่าวจบ ก็ประคองหลังของเจ้าหมาน้อย แล้วกวักน้ำขึ้นมาอาบตัว

อินชิงเสวียนอยากอบรมเจ้าหมาน้อยจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องดีที่จะเจ้าอารมณ์เกินไป แต่เมื่อนึกได้ว่าเจ้าหมาน้อยเพิ่งตัวแค่นี้ บอกกล่าวสิ่งใดไปก็คงไม่เข้าใจ นางส่ายหน้า รอให้เขาโตกว่านี้ค่อยว่ากัน

เจ้าหมาน้อยเล่นน้ำในอ่างอย่างสนุกสนาน น้ำจึงสาดกระเซ็นไปทั่ว อินชิงเสวียนและยายหลี่หน้าเปียกเป็นทิวแถว กว่าจะเล่นจนพอใจก็ผ่านไปครึ่งชั่วยาม

ยายหลี่เช็ดตัวเขาให้แห้ง ก่อนอุ้มเข้าไปในห้อง อินชิงเสวียนเทแป้งทาผื่นคัน ตัวหอมตั้งแต่หัวจรดเท้า

เจ้าหมาน้อยตาปรือปรอย ท่าทางครึ่งหลับครึ่งตื่น

ฉวยโอกาสที่เจ้าหมาน้อยกำลังสงบ อินชิงเสวียนก็สวมรองเท้าให้เขา ไม่ใหญ่ไม่คับ กำลังพอดี

ยายหลี่ลูบรองเท้าและเสื้อผ้าด้วยสีหน้ามีความสุข ดวงตาแดงเรื่อขึ้นมา

“องค์ชายน้อยของเรามีเสื้อผ้าและรองเท้าใส่แล้ว”

อินชิงเสวียนตบไหล่ยายหลี่อย่างปลอบโยน “อย่าเศร้าไปเลย รอจนเขาโตขึ้น เขาจะสวมใส่อะไรก็ได้ที่เขาต้องการ”

พูดจบก็หยิบตั๋วเงินในอกออกมา

“นี่เป็นเงินที่ข้าขายของได้ในวันนี้ ข้าจะเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินหนึ่งร้อยตำลึง ที่เหลือก็เก็บไว้ในวังเย็นเถอะ”

ยายหลี่กล่าวด้วยความตกใจ “เงินตั้งหลายพันตำลึง พระสนมขายของได้มากเพียงใดในวันเดียว”

อินชิงเสวียนยกยิ้มที่มุมปาก “ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย และเราจะมีเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต”

ตอนที่เข้าไปในร้านค้าคะแนนสะสม นางก็คิดออกว่าจะขายอะไรในครั้งหน้า หากสิ่งนี้ถูกนำออกมา รับประกันว่าจะต้องทำเงินได้มหาศาลแน่

ยายหลี่หยิบกล่องไม้หักๆ ที่ใส่ตั๋วเงินออกมา ก่อนจะหยิบตั๋วเงินทั้งหมดออกมาแล้วนับอย่างระมัดระวัง

นางกล่าวเสียงตื่นเต้น “พระสนม เรามีเงินหนึ่งหมื่นสามพันตำลึง”

หากไม่ใช่เย่จิ่งอวี้สารเลวหักเงินนางไปสามพัน นางคงมีเงินเยอะกว่านี้

ถึงแม้อินชิงเสวียนจะขโมยกลับมาได้หลายร้อย แต่ก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

เงินนั่นจะต้องได้คืนมาจากพวกผู้หญิงของเขา

อินชิงเสวียนส่งเสียงฟึดฟัด ก้มหน้ามองเจ้าหมาน้อยที่หลับไปพร้อมกับกำปั้นน้อยๆ

จ้องมองใบหน้าเล็กเล็กอ้วนกลม อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มเบาๆ

กระซิบเสียงเบาว่า “หลังจากอาบน้ำเสร็จ อย่าลืมทาแป้งทาผื่นคันให้เขา ข้าต้องกลับแล้ว หากออกมานานเกินไป เย่จิ่งอวี้จะเกิดความสงสัยได้”

ยายหลี่รีบลุกขึ้น กล่าวด้วยสีหน้าไม่สบายใจว่า “พระสนมต้องระวังให้มาก หากไม่ว่างก็อย่ามาเลยเพคะ”

“ข้ารู้ ข้าจะพยายามหาโอกาสกลับมาหาพวกเจ้า อดทนสักสองสามวัน เราจะได้พบกันอีกครั้ง”

ยายหลี่กุมมืออินชิงเสวียน กล่าวด้วยน้ำเสียงรักใคร่เมตตา “ตอนนี้เราไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินในวังเย็นแล้ว ไม่ต้องพูดเลยว่าข้าดีใจเพียงใด พระสนมทรงทนทุกข์ ตลอดเวลาต้องอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี คอยวิตกกังวลอยู่เสมอ”

อินชิงเสวียนยักไหล่อย่างไม่แยแส

“ตราบใดที่ออกไปได้ สิ่งเหล่านี้ที่พบเจอก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าต้องกลับไปจริงๆ พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว”

ยายหลี่และอวิ๋นฉ่ายยืนส่งอินชิงเสวียนที่หน้าประตูวังเย็น สามคนนายบ่าวร่ำลากัน ทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกไม่สบายใจ

ระหว่างทาง นางรู้สึกแย่อย่างบอกมิถูก

ทำให้เดินมาถึงหน้าประตูหอฉงฮวาโดยไม่รู้ตัว

อินชิงเสวียนสัมผัสชุดชั้นในในอ้อมแขน ซูฉ่ายเวยที่ถลาเข้ามาด้วยสีหน้าสิ้นหวังก็พลันยินดี

ขณะที่เปิดประตู ก็ได้ยินเสียงบางคนร้องตะโกนว่า “เจ้าเป็นใคร กล้าดีอย่างไรทาเล็บสีแดง? ใครก็ได้ มาขูดสิ่งที่อยู่บนเล็บนางให้ข้าที”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์