อินชิงเสวียนได้นำเย่จิ่งอวี้มายังมุมเหนือของภูเขา
ที่นี่ห่างไกลและเปลี่ยวมากจริงๆ ด้านข้างเป็นผืนป่าที่รกร้าง และมีหินขรุขระที่แปลกตาจำนวนไม่น้อย
“ชาวตงหลิวบอกว่าที่นี่ถูกพวกเขาปลอมแปลงเอาไว้ พร้อมทั้งวางกลไกอยู่ พวกเราลองตามหาให้ละเอียด”
ขณะนั้นท้องฟ้าสว่างมากแล้ว สายตามองเห็นได้อย่างชัดเจนและหาได้ง่ายมากขึ้น
ทั้งสองแยกกันตามหา พวกเขาหาไปด้วย และตะโกนเรียกชื่อของเย่จิ่งหลานไปด้วย
เย่จิ่งหลานกำลังนอนและฝึกฝนตนเองอยู่ในมิติ
ดื่มโคล่า กินมันฝรั่งทอด ในมือถือหนังสือนิยายที่ยังอ่านไม่จบอยู่เล่มหนึ่ง ไม่ต้องถามว่าสบายใจแค่ไหน
หวังซุ่นนอนอยู่ข้างๆ เขา ในปากกำลังเคี้ยวป๊อปคอร์นรสคาราเมลเสียงดังจ๊อบแจ๊บ ทำให้เย่จิ่งหลานรำคาญอย่างมาก จึงหันกลับไปด่าว่า “หากยังกินมีเสียงแบบนี้อีก ข้าจะไล่ให้เจ้าไปอยู่ห้องพักอื่นแล้วนะ”
หวังซุ่นรีบหุบปากในทันที เขามองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยหน้าตาที่น่าสงสาร และใช้สี่ฟันหน้าเคี้ยวเบาๆ ราวกับสุนัขตัวเล็ก
เย่จิ่งหลานต้องด้วยความโหดเหี้ยม จากนั้นก็หันกลับไปอ่านหนังสือต่อ
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเรียกตัวเองอยู่ด้านนอก จึงลุกขึ้นนั่งในทันที การเคลื่อนไหวมากเกินไปทำให้เจ็บปวดบาดแผลอย่างมาก
“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนได้ยินคนกำลังเรียกชื่อของข้า?”
หวังซุ่นเงี่ยหูฟังในทันที
“ดูเหมือนจะมีจริงๆ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็มีคนตะโกนเรียกอีกครั้ง
ครั้งนี้ห่างจากเขาไม่ไกลมานัก ได้ยินชัดเจนว่าเป็นน้ำเสียงของอินชิงเสวียน
“เสียงของกุ้ยเฟย”
หวังซุ่นตื่นเต้นเล็กน้อย
สายตาของเย่จิ่งหลานก็ปกปิดความดีใจไว้ไม่อยู่
“ในเมื่อยัยเด็กนั่นสามารถตามหาที่นี่พบ นั่นหมายความว่าด้านนอกไม่มีอันตรายแล้ว พวกเราออกไปดูกันเถอะ”
ทันทีที่เปลี่ยนความคิด ทั้งสองคนก็ปรากฏตัวอยู่ในถ้ำ
ปรากฏว่าด้านในไม่มีคนอยู่แล้ว แม้แต่ศพสองศพนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เย่จิ่งหลานรีบตะเบ็งเสียงตะโกนพูดว่า “อินชิงเสวียน เจ้าคนใจร้าย เพิ่งนึกได้ว่าต้องตามหาข้าใช่ไหม ข้าอยู่ที่นี่นะ”
อินชิงเสวียนกำลังจะเข้าไป ทันใดนั้นใบมีดคมแถวหนึ่งก็บินออกจากในถ้ำด้วยความรวดเร็วจนแทบหลบไม่ทัน อินชิงเสวียนจึงเข้าไปในมิติทันที
มีกับดักอยู่จริงๆ!
นางเปิดหน้าจอขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับด้านนอก เมื่อพบว่าไม่มีใบมีดยิงออกมาแล้ว นางจึงเดินออกมา
เมื่อเปิดกิ่งไม้แห้งด้านหน้าปากถ้ำด้วยความระวัง ทันใดนั้นก็พบเย่จิ่งหลานและหวังซุ่นนอนอยู่บนพื้น
“เย่จิ่งหลาน พวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าไม่รู้ว่าปากถ้ำถูกวางกับดักไว้ เขาเลิกชุดคลุมยาวออก เผยให้เห็นขาที่ถูกมัดกับเหล็กพยุง
พูดด้วยความรู้สึกเกือบตายว่า “โชคดีที่ยังไม่ตาย”
อินชิงเสวียนชกที่ไหล่ของเขาอย่างแรงหนึ่งที
“เจ้าทำให้ข้าตกใจมากเลยนะ คิดว่าเจ้ากลับไปที่สาธารณรัฐประชาชนจีนไปแล้วเสียอีก”
เมื่อเห็นอินชิงเสวียนทำหน้าตาเป็นห่วง เย่จิ่งหลานก็ยิ้มที่มุมปาก พูดอย่างทีเล่นทีจริงว่า “ต่อให้ข้าต้องไป ข้าจะเอาเจ้าไปด้วย”
“ถุย ใครจะไปกับเจ้า”
อินชิงเสวียนถ่มน้ำลายแล้วพูดว่า “เย่จิ่งอวี้ก็มาด้วย พวกข้ากำลังหาทางพาพวกเจ้ากลับไป”
นางมาด้านนอกถ้ำเพื่อเรียกเขา เย่จิ่งอวี้ได้วิ่งตามเสียงเข้ามาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...