ขณะนั้นเอง เย่จิ่งอวี้ได้นำอินชิงเสวียนกลับมายังหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์
เดิมทีอินชิงเสวียนต้องการไปดูเป่าเล่อเอ่อร์ แต่ไฟในห้องถูกดับแล้ว
เย่จิ่งอวี้จึงพูดเสียงเบาว่า “วันนี้ไม่ต้องไปรบกวนพวกเขาแล้ว การเดินทางที่แสนยาวนาน พวกเขาคงเพลียแย่แล้ว”
หนอนกู่ของเป่าเล่อเอ่อร์เพิ่งถูกกำจัด นางจะเป็นต้องพักผ่อนให้มาก เมื่อคิดได้เช่นนี้อินชิงเสวียนก็พยักหน้า
“เพคะ พวกเราไปพักผ่อนในมิติดีกว่า”
เย่จิ่งอวี้ยิ้ม
“ดีเลย”
ทันทีที่อินชิงเสวียนคิดภาพ ทั้งสองก็ปรากฏตัวอยู่ด้านในมิติ
“อาอวี้เจ็บแผลอยู่หรือไม่?”
“แผลภายนอกไม่มีอะไรหรอก ล้างด้วยน้ำพุวิญญาณก็ดีขึ้นมากแล้ว”
เย่จิ่งอวี้ปลดผ้าพันแผลสีขาวบนแขนเสื้อออก ปรากฏว่าบาดแผลตกสะเก็ดเรียบร้อยแล้ว
อินชิงเสวียนจึงวางใจลง เมื่อเห็นว่าพืชผลในมิติเติบโตเต็มที่แล้ว จึงทำการหว่านและเก็บเกี่ยว และเมล็ดพืชก็ถูกบดเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
เย่จิ่งอวี้เพิ่งเคยเห็นอินชิงเสวียนเก็บเกี่ยวมิติเป็นครั้งแรก เมื่อเห็นว่าผลไม้ทั้งหมดร่วงหล่อลงมาเอง และถูกวางไว้ข้างๆ อย่างเป็นระเบียบ เปลือกข้าวสาลีก็ถูกแยกและบรรจุถุงด้วยตัวเอง เขาอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“เสวียนเอ๋อร์... นี่คือวิธีการเก็บเกี่ยวงั้นหรือ?”
อินชิงเสวียนหัวเราะและพูดว่า “เพคะ ด้านในมิติของข้า ทุกสิ่งสามารถควบคุมได้โดยการใช้ความคิด”
เย่จิ่งอวี้ค่อนข้างอิจฉา
“ฮว๋าเซี่ยของพวกเจ้า ทุกคนล้วนมีมิติแบบนี้หรือไม่?”
“ไม่เพคะ มิติเป็นสิ่งของที่สามารถพบเจอได้ แต่ไม่สามารถเรียกร้องมันมาได้ หากต้องการก็จำเป็นต้องมีเหตุบังเอิญ”
สำหรับเรื่องนี้ อินชิงเสวียนก็ไม่รู้จะอธิบายให้เขาฟังเข้าใจได้อย่างไร แม้แต่ในยุคปัจจุบัน ของแบบนี้ก็มีแค่ในนิยายหรือในโทรทัศน์
คงเป็นเพราะเทวดาเห็นว่านางตายอย่างไม่เป็นธรรม จึงมอบนิ้วทองคำเช่นนี้ให้แก่นาง。
เย่จิ่งอวี้ร้องอ๋อแล้วพูดว่า “เช่นนี้นี่เอง เสวียนเอ๋อร์เป็นดาวนำโชคดวงน้อยจริงๆ ด้วย”
อินชิงเสวียนเม้มปากหัวเราะ
“เหนื่อยกันมาทั้งคืน ท่านก็คงหิวเหมือนกัน ข้าไปหาของกินก่อนนะ พวกเรากินมื้อดึกกันเถอะ”
เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความพอใจว่า “แล้วแต่เสวียนเอ๋อร์เลย”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง อินชิงเสวียนโอบข้าวของจำนวนมาก และวิ่งออกมาจากร้านค้าสะสมคะแนน
แผนการนี้สำเร็จลุล่วงอย่างไร้ที่ติ อินชิงเสวียนดีใจเป็นอย่างมาก จึงถือโอกาสให้รางวัลตัวเองและเย่จิ่งอวี้
เย่จิ่งอวี้เดินเข้าไปรับถุง เมื่อเห็นขนมด้านในที่มีสีสันฉูดฉาด เขาก็ประหลาดใจอย่างอดไม่ได้
“สิ่งของเหล่านี้คืออะไรกัน?”
“เป็นขนมของฮว๋าเซี่ยเพคะ นานๆ กินสักครั้งพอได้ แต่ไม่แนะนำให้กินจนติด”
อินชิงเสวียนปูผ้าปิกนิกลายคิตตี้ขนาดใหญ่ลงบนพื้นหญ้า ก่อไฟที่ตะแกรงย่างเนื้อเสียบไม้ และอีกด้านก็ต้มหม้อไฟ
นอกจากของเหล่านี้ก็ยังมีขนมหวานอีกมากมาย รวมทั้งขนมกรุบกรอบ ขนมผิง ขนมหนวดมังกร มันฝรั่งทอด ข้าวซอยตัดและอื่นๆ อีกมากมายก่ายกอง
เย่จิ่งอวี้แกะห่อตีนไก่รสเผ็ดและกินเข้าไปหนึ่งคำ รู้สึกถึงรสชาติชาๆ เผ็ดๆ ความอยากอาหารก็ตามมาในทันที
เอ่ยชมอย่างอดไม่ได้ว่า “ประเทศของพวกเจ้าช่างดีจริงๆ มีอาหารอร่อยให้กินมากมาย”
ทันใดนั้นก็รู้สึกอ้างว้างเล็กน้อย
“เสวียนเอ๋อร์อยู่กับข้าที่ต้าโจว รู้สึกน้อยใจบ้างหรือไม่?”
อินชิงเสวียนกำลังพลิกเนื้อย่าง ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้น
“มีสิ่งใดต้องน้อยใจเพคะ ข้าอยู่ที่ต้าโจวหรือฮว๋าเซี่ยก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน เพราะข้ากินทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา”
“เช่นนั้นก็ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...