เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ใจของลั่วชิงยวนก็ยังคงเจ็บปวด
แต่จะทำอย่างไรได้ ต้องเป็นเช่นนี้เท่านั้น ฟู่เฉินหวนจึงจะมิถูกทรมานจนถึงตาย
ในที่สุดลั่วเยวี่ยอิงที่ถูกอุ้มไปก็มีความสุขมาก
นางกอดฟู่เฉินหวน ร้องไห้คร่ำครวญน้ำตาไหลพราก “ท่านอ๋อง ในที่สุดหม่อมฉันก็ได้พบท่านแล้ว”
“ท่านมิรู้หรอกเพคะว่าหม่อมฉันต้องใช้ชีวิตอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา”
“พระชายาเอาเลือดของหม่อมฉันไปทุกวัน หม่อมฉันคิดว่าชาตินี้จะมิได้พบกับท่านแล้ว…”
ฟู่เฉินหวนได้ยินเสียงคร่ำครวญก็หงุดหงิด ยิ่งปวดหัวหนักขึ้น
“ท่านอ๋อง ท่านต้องช่วยหม่อมฉันให้พ้นจากภัยนี้ด้วยเถิดเพคะ” ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้มิหยุด
“ข้าจะให้หมอมาตรวจอาการเจ้า” ฟู่เฉินหวนพยายามควบคุมตนเองมิให้ต่อต้านพลังที่ควบคุมอยู่
พยายามตามใจลั่วเยวี่ยอิง
“เพคะ” ลั่วเยวี่ยอิงยิ้มอย่างพอใจ ในใจมีความสุข
สิ่งที่เหยียนหน่ายซินพูดนั้นเป็นความจริง
......
ลั่วชิงยวนนั่งอยู่ที่ห้อง จือเฉาใช้ยาบรรเทาอาการบวมช้ำที่ใบหน้าของลั่วชิงยวน
พลางกล่าวด้วยความเป็นห่วง “ท่านอ๋องกับพระชายาได้คืนดีกันแล้วมิใช่หรือเจ้าคะ เหตุใดจู่ ๆ จึงลงมือหนักเช่นนี้”
“เขาก็มีเหตุผลของเขา” ลั่วชิงยวนถอนหายใจ
เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นลั่วเยวี่ยอิงทุกข์ทรมานจะมิสามารถควบคุมตนเองได้
ลั่วชิงยวนนึกถึงบาดแผลที่ข้อมือของลั่วเยวี่ยอิง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามิถูกต้อง
ลั่วเยวี่ยอิงตั้งใจกรีดบาดแผลเหล่านั้นเอง
หรือว่าลั่วเยวี่ยอิงรู้เรื่องบางอย่างแล้ว?
“จือเฉา ช่วงที่พวกข้ามิอยู่ ในจวนไม่มีอะไรผิดปกติใช่หรือไม่?” ลั่วชิงยวนถาม
จือเฉาส่ายหน้า “ไม่มีอะไรผิดปกติเลยเจ้าค่ะ พระชายาประสงค์จะถามสิ่งใดหรือเจ้าคะ”
ลั่วชิงยวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ให้แม่บ้านเติ้งไปตรวจสอบดู ช่วงที่พวกข้ามิอยู่ ฝ่ายลั่วเยวี่ยอิงมีอะไรผิดปกติหรือไม่”
“เจ้าค่ะ”
หลังจากทายาเสร็จแล้ว ลั่วชิงยวนอยากจะไปหาฟู่เฉินหวน แต่ก็ลังเล
จากนั้นเขาก็ผลักลั่วเยวี่ยอิงออกไป แล้วออกจากห้องไป
......
ยามค่ำคืน
ลั่วชิงยวนมิทราบว่าฟู่เฉินหวนเป็นอย่างไรจึงไปดู
แต่ก็มิพบฟู่เฉินหวนที่ห้องของลั่วเยวี่ยอิง
เมื่อมาถึงตำหนักของฟู่เฉินหวน ซูโหยวก็ขวางไว้ “พระชายา ท่านอ๋องมิให้ผู้ใดเข้าไปขอรับ”
เมื่อได้ฟังดังนั้น ลั่วชิงยวนจึงมองไปที่ห้องด้วยความเป็นห่วง แล้วถามว่า “ท่านอ๋องอยู่ในห้องคนเดียวมานานเท่าใดแล้ว?”
“สองชั่วยามแล้วขอรับ มิได้เสวยพระกระยาหารเย็นเลย ใครเรียกก็มิตอบ”
“พระชายา ขอให้ปล่อยให้ท่านอ๋องอยู่คนเดียวสักพักเถิดขอรับ ท่านคงมิอยากให้พระชายาเห็นสภาพของท่านในตอนนี้”
ซูโหยวกล่าวด้วยความเป็นห่วง
เมื่อลั่วชิงยวนได้ฟังดังนั้นก็หดหู่
จากนั้นนางก็ถามเรื่องตอนบ่าย “ลั่วเยวี่ยอิงก่อเรื่องวุ่นวายอีกหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...