“โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”
“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”
ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใคร
นางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วย
เนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขา
ไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนาง
เว้นเสียแต่ เฉินชี
เพราะนางชอบเขา
ทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมาก
ลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!
เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”
“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”
ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรง
ทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้น
บังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูง
แต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดง
นางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตาแดงก่ำ
เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องนางอย่างโกรธเคือง ราวกับอยากจะหั่นนางเป็นชิ้น ๆ
ใบหน้าของลั่วชิงยวนซีดเผือดและมีเลือดเปื้อน ดูหมดสภาพแต่ก็ยังคงงดงามมีเสน่ห์อย่างมาก
แววตาที่ดุร้ายของนางทวีความน่ากลัวมากขึ้น
ทำให้คนอื่นมิกล้าดูถูกความแข็งแกร่งของสตรีที่อ่อนแอนางนี้อีกต่อไป
ลั่วชิงยวนพูดอย่างเย็นชา “วันนี้เป็นการประลองระหว่างหม่อมฉันกับจั๋วฉ่างตง จำได้ว่ามิเคยเชิญองค์หญิงเพคะ”
“แต่ในเมื่อท่านได้ดาหน้าเข้ามาในหอรักษ์ดาราด้วยตัวเอง ก็เท่ากับท่านยอมรับกฎเกณฑ์ในการประลองของหอรักษ์ดาราแห่งนี้แล้ว คงจะทราบดีกว่าหากไม่มีการนองเลือด วงเวทก็จะมิเปิด”
“หากท่านและหม่อมฉันออกไปจากที่นี่ในวันนี้ คงได้ประสบปัญหาใหญ่เป็นแน่!”
แค่ดูเผิน ๆ ก็เหมือนกับสามารถสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดแสนสาหัสที่เกาเหมียวเหมี่ยวกำลังรู้สึกอยู่ในขณะนี้ได้ด้วยตัวเอง
แต่ดวงตาของลั่วชิงยวนกลับสงบนิ่ง มิหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
ทั้งยังมีความสุขจากการแก้แค้นอยู่ในดวงตาของนางด้วย
เหตุการณ์นี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน
เกาเหมียวเหมี่ยวใกล้จะทนมิไหวแล้ว ลั่วชิงยวนจึงคลายเชือกที่อยู่ในมือ
ทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวมีโอกาสได้หายใจ
เสียงอันเยือกเย็นของลั่วชิงยวนดังขึ้น “เกาเหมียวเหมี่ยว วันนี้หม่อมฉันแค่สอนบทเรียนให้ท่านไปแค่บทเรียนเดียวเท่านั้น”
“หากท่านยังกล้ารนหาที่ตายยั่วยุหม่อมฉันอีก หม่อมฉันรับรองได้เลยว่าท่านจะได้มีจุดจบที่อนาถยิ่งกว่านี้แน่”
“อุบายของท่านเป็นเพียงของเล่นที่หม่อมฉันเบื่อแล้วก็เท่านั้น!”
เกาเหมียวเหมี่ยวรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง
ตั้งแต่ลั่วเหลาตายไป นางก็มิได้มีความรู้สึกหนาวถึงกระดูกเช่นนี้อีกเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...