ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1361

ฝูเหมิ่งกล่าวอย่างเย็นชา พลางจับคมกระบี่ที่คมกริบ พลันหมุนกายหมายจะตัดโซ่เหล็ก

ถึงแม้ว่ากระบี่ห้วงสวรรค์จะยังมิคมกริบถึงขั้นตัดเหล็กได้ แต่ความเหี้ยมโหดของฝูเหมิ่งก็ทำให้โซ่เหล็กมิอาจควบคุมเขาได้

ในเวลานี้เอง ลั่วชิงยวนก็ฉวยโอกาสนำเข็มทิศออกมาแล้วใช้โลหิตปลุกวงเวทอัญเชิญวิญญาณ ในป่ามีภูตผีวิญญาณมากมายพุ่งเข้ามาจนเกิดลมกระโชกแรงพัดในป่า

ลั่วชิงยวนรู้ว่าหากฝูเหมิ่งได้กระบี่ห้วงสวรรค์คืนแล้ว วันนี้นางและคนใบ้อาจจะมิรอดชีวิต

ในเวลาสำคัญนี้จำต้องใช้กำลังทั้งหมดขัดขวาง!

ถึงแม้ว่าจำนวนวิญญาณบนภูเขาเมืองแห่งภูตผีจะมีมากมายและกลิ่นอายชั่วร้ายก็รุนแรง แต่ลั่วชิงยวนก็มิรู้ว่าตนเองจะสามารถควบคุมพวกมันได้หรือไม่

วิญญาณชั่วร้ายออกมากันเป็นฝูง

ฝูเหมิ่งก็อดมิได้ที่จะยกแขนขึ้นมาป้องกัน

จากนั้นก็ตระหนักถึงอันตราย เขามิสนใจอาการบาดเจ็บที่ฝ่ามือ บังคับตัวเองให้ใช้กระบี่ห้วงสวรรค์

ดึงคนใบ้ลงมาจากต้นไม้อย่างแรงด้วยพละกำลังมหาศาล

คนใบ้ล้มลง ยกมือขึ้นพยุงตัวเองขึ้นจากพื้นได้ทันเวลา จึงหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้

จากนั้นก็เหาะขึ้นถีบเข้าที่หน้าอกของฝูเหมิ่ง

ถึงกระนั้น ฝูเหมิ่งก็ยังมิยอมปล่อยกระบี่ห้วงสวรรค์

ลั่วชิงยวนใช้วงเวทอัญเชิญวิญญาณ จากนั้นกลิ่นอายแห่งความมืดมิดก็พุ่งออกมาโอบล้อมนางไว้ ทำให้นางหายใจมิออก

นางกัดฟันพยายามอย่างสุดกำลัง ก่อนจะยกกระบี่ขึ้น

ร่วมมือกับคนใบ้เพื่อขัดขวางมิให้ฝูเหมิ่งได้กระบี่ห้วงสวรรค์ไป

ความมืดมิดปกคลุมท้องฟ้าราวกับกรงขังที่มืดมิด กักขังพวกเขาไว้

การต่อสู้

เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่

ลั่วชิงยวนบาดเจ็บ ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด บนใบหน้าก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด

นี่เป็นอานุภาพเมื่อกระบี่ห้วงสวรรค์ถูกโซ่เหล็กพันธนาการไว้

เมื่อฝูเหมิ่งได้กระบี่ห้วงสวรรค์ไป พวกนางจะต้องตายอย่างมิต้องสงสัย

ร่างของคนใบ้ก็เต็มไปด้วยบาดแผล ในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

วิญญาณมากมายบนท้องฟ้าพุ่งผ่านร่างของฝูเหมิ่ง ฉีกกระชากเขามิหยุด ใบหน้าที่ซูบผอมราวกับโครงกระดูกของฝูเหมิ่งมีเส้นเลือดปูดโปน หน้าตาดุร้าย น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

“อ๊าก!” ฝูเหมิ่งร้องคำราม

จับกระบี่ห้วงสวรรค์ไว้แน่น มิยอมปล่อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย