ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1463

โฉวสือชีพูดด้วยความตกใจ “นางบอกว่านางมีนามว่าโหยวหัวหนิง!”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ข้าได้ยินแล้ว”

“มิรู้ว่ามีความเกี่ยวข้องอันใดกับโหยวจิ้งเฉิงหรือไม่”

“ดูเหมือนว่าสาเหตุการตายของอวี๋ตันเฟิ่งคงยังมิอาจเปิดเผยได้ในยามนี้”

จำต้องสืบให้กระจ่างเสียก่อนว่า โหยวหัวหนิงผู้นี้มีความสัมพันธ์เช่นไรกับโหยวจิ้งเฉิง

แต่ก็บังเอิญเกินไป

อวี๋ตันเฟิ่งสิ้นชีพด้วยน้ำมือของโหยวจิ้งเฉิง

ส่วนพี่ชายของอวี๋ตันเฟิ่งกลับได้ภรรยาสกุลโหยว

มิรู้ว่าในเรื่องนี้จะมีเงื่อนงำอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่

ลั่วชิงยวนทำได้เพียงเก็บงำความลับนี้ไว้ชั่วคราว

อวี๋ตันเฟิ่งมอบเมืองแห่งภูตผีให้แก่นาง หากญาติของนางมีภัย นางย่อมต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

ครู่หนึ่งก็มีคนนำอาหารมาให้

ลั่วชิงยวนตรวจดูอาหารแล้วมิพบสิ่งผิดปกติ ทั้งสามจึงกินอาหารกันเพียงเล็กน้อย

จากนั้นก็กลับไปยังห้องพักของตน

โฉวสือชีและคนใบ้ผลัดกันนอน คนที่ตื่นอยู่จะต้องคอยฟังความเคลื่อนไหวภายนอกตลอดเวลา เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย

ก่อนที่จะรู้ตัว ฟ้าก็สางแล้ว

ทั้งสามถูกเชิญไปยังห้องโถงใหญ่เพื่อกินอาหารเช้า

ลั่วชิงยวนเพิ่งได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของอวี๋หงในเวลานี้ ทั้งยังได้พบกับบิดามารดาของอวี๋ตันเฟิ่งด้วย

ทั้งสองมีอายุมากแล้ว ทั้งยังเจ็บป่วยเรื้อรัง ดูอ่อนเพลียยิ่งนัก แต่สีหน้ากลับดูแจ่มใสอย่างน่าประหลาด

คงเป็นเพราะจดหมายเหล่านั้นเมื่อคืนนี้ที่ช่วยให้สองสามีภรรยาผู้ชราคลายความทุกข์ลงได้บ้าง

อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าเมื่อครั้งนั้นอวี๋ตันเฟิ่งมิได้ตัดใจทอดทิ้งครอบครัวอย่างเลือดเย็น

“เมื่อคืนยังมิทันได้ถาม แม่นางมีนามว่ากระไรหรือ?” อวี๋หงถามด้วยความตื่นเต้น

“ลั่วชิงยวน”

“อ้อ แม่นางลั่ว” อวี๋หงถามอีกว่า “เมื่อคืนข้ารีบร้อนไปหน่อย แม่นางกล่าวว่าน้องสาวข้ามิได้อยู่บนใต้หล้านี้แล้ว มิทราบว่านางสิ้นไปด้วยเหตุอะไร?”

“ตลอดหลายปีมานี้นางไปอยู่ที่ใด?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย