ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 19

ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางจงใจเบียดตัวไปทางเฉียงเวย "ข้าตัวใหญ่จริง ๆ นั่นแหละ และข้าก็สามารถทับเจ้าตายได้ เจ้าเชื่อหรือไม่?"

เฉียงเวยถูกเบียดเข้ามุม นางถูกบีบระหว่างลั่วชิงยวนและลั่วเยวี่ยอิง ลั่วชิงยวนเบียดจนมีพื้นที่ว่าง ก่อนจะกวักมือเรียกจือเฉาที่อยู่นอกรถม้า ตบพื้นที่ว่างข้างตัว และเอ่ยขึ้น "จือเฉา ขึ้นมา"

จือเฉายิ้มและรีบเข้ามาในรถม้า "พระชายา ท่านใจดีจริง ๆ เจ้าค่ะ"

เฉียงเวยบิดตัวไปมา และเอ่ยอย่างไม่พอใจ "พระชายารถม้าคันเล็กนิดเดียว เหตุใดท่านถึงได้นำนางรับใช้ขึ้นมาด้วยเล่าเจ้าคะ! ดูสิเบียดคุณหนูรองหมดแล้ว!”

ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกอึดอัดมาก จนนางแทบจะหายใจไม่ออก

"พวกเจ้าเบียดกันแล้วเกี่ยวอะไรกับข้า? ถ้าใครมิอยากเบียดก็ลงไปสิ" ลั่วชิงยวนตะคอกเสียงเย็น อาศัยขนาดของตัวเองเบียดเข้าไปอีก

แม้ว่าร่างกายจะอ่อนแอ แต่น้ำหนักก็หนักพอควร ไม่ว่าเฉียงเวยจะผลักกลับแค่ไหน นางก็ไม่ขยับเลยสักนิด ราวกับภูเขาลูกเล็ก ๆ

ท้ายที่สุดลั่วเยวี่ยอิงก็ทนมิไหวอีกต่อไป นางไล่นางรับใช้สองคนออกจากรถม้า จึงมีพื้นที่ที่กว้างขึ้น

ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แต่นางก็ทำอะไรมิได้ ได้แต่นั่งหน้าบูดมาตลอดทาง

ลั่วชิงยวนคือคนที่ต้องกลับมาคารวะผู้ใหญ่ในครั้งนี้ แต่เนื่องจากลั่วเยวี่ยอิงถูกทำร้ายจนสลบ และถูกแทนที่ในวันแต่งงาน จนได้พักฟื้นอยู่ในตำหนักอ๋อง นางจึงได้กลับจวนอัครเสนาบดีพร้อมกับลั่วชิงยวนในวันนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่รู้เรื่องราวต่างคิดว่าคนที่กลับมาคารวะผู้ใหญ่คือลั่วเยวี่ยอิง

ขณะนี้มีนางรับใช้จำนวนมากมารวมตัวกันที่ประตูจวนของเสนาบดี เมื่อเห็นรถม้ากำลังมา พวกเขาก็ตื่นเต้นกันมาก "มาแล้ว คุณหนูรองกลับมาแล้ว!"

ลั่วชิงยวนออกจากรถม้าก่อน และลั่วเยวี่ยอิงก็ตามลงมา

นางรับใช้กลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาล้อมลั่วเยวี่ยอิงไว้ตรงกลาง ไม่มีใครสนใจลั่วชิงยวนที่อยู่ข้าง ๆ แม้แต่น้อย ทุกคนต่างก็มิสนใจนาง เหมือนนางคืออากาศธาตุ แถมยังมีคนเหยียบเท้านางโดยมิได้ตั้งใจอีกด้วย

เมื่อเห็นเช่นนั้น จือเฉาก็รู้สึกมิพอใจ "พวกเจ้าทำเยี่ยงนี้ได้อย่างไร!"

ลั่วชิงยวนจับมือนาง ช่างมันเถอะ นางไม่อยากสร้างปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่หัวนางยังรู้สึกมึนงงอยู่เช่นนี้ นางแค่อยากจะจบมัน และกลับไปนอนพักผ่อนโดยเร็วที่สุด

นางก้าวตรงไปที่ประตู

ทันทีที่เข้ามาในลาน นางก็เห็นแอ่งน้ำคดโค้งสวยงามที่ล้อมรอบคฤหาสน์ทั้งหมด น้ำใสไหลผ่านสะพานเล็ก ๆ ดอกไม้และต้นไม้มากมาย ทั้งสวนเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ราวกับอยู่บนสวรรค์ มีหินบางก้อน ซึ่งแตกต่างจากหินประดับทั่วไป มันไม่ได้มีรูปร่างที่น่าดึงดูด แต่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับเนินเขาสองสามลูก ศาลาจึงดูมีขนาดเล็กไปเลยเมื่ออยู่ด้านหน้าของเนินเขาเหล่านั้น

ลักษณะเรือนไม้แกะสลักและทาสีอาคาร แม้ว่าจะอยู่ในเมืองที่วุ่นวายเช่นเมืองหลวง แต่ก็ยังมีความรู้สึกว่าถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ ต้องบอกว่านี่คือฮวงจุ้ยที่ยอดเยี่ยมมาก!

นางเดินไปชมไป แต่เมื่อเดินเข้าไปถึงจวนชั้นในก็พบกับตะเกียงหินข้างทางเดินซึ่งเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ตกกลางคืนเมื่อไฟในตะเกียงหินนี้ถูกจุด มันจะดูเหมือนดวงตาของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้จวนเกิดความสงบลง และขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ป้องกันภัยพิบัติได้ นี่คือการตกแต่งฮวงจุ้ยที่ใช้กันทั่วไปโดยปรมาจารย์ฮวงจุ้ยแห่งราชวงศ์ของแคว้นหลี่

นางอดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว เป็นไปได้หรือไม่ว่าตระกูลลั่วนี้มีจะมีปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจากแคว้นหลี่ด้วย?

มิเคยได้ยินเกี่ยวกับปรมาจารย์ฮวงจุ้ยที่ทรงพลังในเทียนเชวียมาก่อน เหตุใดเมื่อกลับมาเกิดใหม่ในแคว้นเทียนเชวีย จึงได้พบปรมาจารย์ฮวงจุ้ยของแคว้นหลี่จำนวนมากมายเช่นนี้

นอกจากนี้ นางยังแอบคิดด้วยว่า บางทีปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจากแคว้นเทียนเชวียอาจได้เรียนรู้แก่นแท้ของปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจากแคว้นหลี่ก็เป็นได้ หรือไม่บางทีอาจเป็นนางที่คิดมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม นางตามความทรงจำของลั่วชิงยวนมายังเรือนของนาง เรือนสายธาร

แต่กลับพบว่า การตกแต่งในเรือนนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก ทั้งลานเต็มไปด้วยของเสริมฮวงจุ้ย ซึ่งนางก็คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี! นางคือนักบวชระดับสูงแห่งแคว้นหลี่ ฮวงจุ้ยทั่วไปอย่างตำแหน่งจัดวางทางเดินของน้ำเช่นนี้จะรอดสายตาของนางไปได้อย่างไร สถานที่แห่งนี้ผู้วิเศษท่านใดเป็นคนจัดวางกัน?

ในหัวเต็มไปด้วยความสงสัย จู่ ๆ ก็มีแม่นมอาวุโสคนหนึ่งเดินออกมาจากตรงมุมห้อง เมื่อเห็นนาง แม่นมก็ร้องขึ้นด้วยความดีใจ "คุณหนูกลับมาแล้ว!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย