ลั่วชิงยวนที่บอบช้ำได้บาดแผลเพิ่มขึ้นมาอีก
นางเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อ มองดูท่านพ่อที่เกรี้ยวกราด นางรู้สึกไม่พอใจ "เหตุใดถึงได้ตบตีข้า?"
นางรู้สึกโกรธและเจ็บปวดใจ ลั่วชิงยวนก่ออาชญากรรมอะไรอย่างนั้นหรือ ทำไมรอบตัวถึงได้มีแต่คนเยี่ยงนี้ แม้แต่พ่อของนางก็ยังทุบตีนางโดยไร้เหตุผล ทั้ง ๆ ที่ลั่วเยวี่ยอิงเป็นคนเอาสมบัติของแม่นางไปก่อน!
ผิดอะไรที่นางอยากได้สมบัติของแม่นางคืน?
"เจ้ายังจะกล้าเถียงอีกรึ!" ลั่วไห่ผิงโกรธจัด และตบหน้านางอีกครั้ง
ลั่วชิงยวนเวียนหัวมาก นางไม่มีแม้แต่แรงที่จะหลบหลีก การที่ถูกตบถึงสองคราทำให้ภาพเบื้องหน้าของนางเป็นสีดำ ศีรษะของนางบวมจนทนกับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว เลือดค่อย ๆ ไหลหยดลงบนพื้น
นางกำฝ่ามือแน่น เต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่ลั่วไห่ผิงอย่างไม่พอใจ "ข้าทำอะไรผิดอย่างงั้นหรือ? ข้าเพียงแค่ต้องการสิ่งสมบัติของแม่ข้าคืนมาก็เท่านั้น! แต่ท่านพ่อกลับตบตีข้าอย่างไร้เหตุผล ท่านลำเอียงเกินไปหรือไม่!"
ในความทรงจำ ลั่วชิงยวนต่างหากที่เป็นผู้ได้รับความรัก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมาตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากป่วยหนักร่างกายของนางก็อ้วนขึ้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานางก็กลายเป็นตัวตลกของเมืองหลวง และทำให้อัครเสนาเสนาบดีลั่วไห่ผิงต้องอับอาย เขาจึงรังเกียจนาง และมักจะมองนางด้วยสายตาที่เย็นชา
แต่เขาก็มิเคยตบตีนางเฉกเช่นวันนี้
“เจ้ายังจะมีหน้ามาพูดเยี่ยงนี้อีกรึ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่เจ้าขโมยการแต่งงานของน้องสาว ท่านอ๋อ
งมิเอาเรื่องเจ้า ข้าเองก็ไว้ชีวิตเจ้า!”
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้ไปพูดจาไร้สาระในตำหนักอ๋องเช่นนั้น แล้วยังสร้างรูปแบบสายฟ้าขึ้นมา ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายไปเสียหมด จากที่ข้าดูเจ้านี่ช่างใจกล้านักนะ!”
ลั่วไห่ผิงโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา เขาขมวดคิ้วแน่นใบหน้าเคร่งขรึม
“ข้ามิได้เป็นผู้สร้างรูปแบบล่อสายฟ้า ข้าช่วยท่านอ๋องเอาไว้ และมิได้ทำร้ายเขา ข้ากระทำผิดอันใด?” ลั่วชิงยวนยังไม่อยากจะเชื่อ และนางรู้สึกโกรธจนแทบบ้า
นางแย้งกลับอย่างมิยอม ทำให้สีหน้าของลั่วไห่ผิงนั้นน่ากลัวและโกรธมากยิ่งขึ้น "ได้ ตอนนี้เจ้ากล้าแม้แต่จะถกเถียงข้า! ดูเหมือนว่าสิ่งที่น้องสาวเจ้าพูดจะเป็นความจริง แย่งงานแต่งนางแล้วยังอวดเบ่งอำนาจ! เฆี่ยนตี กดขี่ข่มเหงคนรับใช้ในตำหนักอ๋อง แถมยังโต้เถียงกับท่านอ๋อง! ข้า ลั่วไห่ผิง เลี้ยงบุตรสาวที่น่าขายหน้าเยี่ยงเจ้ามาได้อย่างไร!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของลั่วชิงยวนพลันเย็นชา นางมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง
นางใส่ความตนอีกแล้ว!
นางรู้แล้วว่า ทำไมลั่วไห่ผิงถึงได้โกรธมาก เพราะคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของลั่วเยวี่ยอิง คงไม่มีเรื่องดีเกี่ยวกับนาง จึงทำให้ลั่วไห่ผิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นนี้
“ท่านพ่อ ทำไมท่านถึงเชื่อฟังคำพูดของนางฝ่ายเดียว? ข้าเติบโตมาภายใต้การดูแลของท่าน ท่านมิรู้หรือว่าข้ามีนิสัยอย่างไร? ข้าถูกกระทำรังแกในตำหนักอ๋องยังมิพอ เมื่อกลับถึงบ้าน ยังถูกตำหนิจากคนที่รักที่สุดอีก” ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยความคับแค้นใจ น้ำตาไหลร่วงลงสู่พื้น
น้ำตาปะปนกับเลือด สภาพของนางดูแทบไม่ได้ การร้องไห้คร่ำครวญนั้นก็ทำให้คนที่พบเห็นอดที่จะสงสารเสียมิได้
เมื่อลั่วไห่ผิงเห็นเช่นนั้น หัวใจของเขาก็สงบลงชั่วครู่
แต่ในเวลานี้เอง ลั่วเยวี่ยอิงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและคุกเข่าลง นางจับแขนเสื้อของลั่วไห่ผิง "ท่านพ่อ อย่าได้ถือโทษท่านพี่เลยเจ้าค่ะ ถึงแม้ว่าท่านพี่จะทำร้ายข้าจนสลบ และแย่งงานแต่งของข้าไป แต่นางก็เป็นบุตรสาวของตระกูลลั่ว และท่านพี่ยังเป็นถึงบุตรสาวของชายาเอก ดังนั้นจึงเหมาะสมแล้วที่ได้แต่งงานกับท่านอ๋อง เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของวงศ์ตระกูลมากกว่าข้าที่เป็นเพียงลูกนอกสมรสเช่นนี้”
ลั่วเยวี่ยอิงกล่าวพลางแสร้งทำเสียงสะอื้น ทุกคำพูดเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
"เพียงแต่ท่านพี่ได้โปรดอย่าใส่ร้ายว่าข้านำสมบัติของแม่ท่านมาเลย ข้าจะกล้าได้อย่างไร ข้าไม่มีอะไรจะคืนให้ท่านได้ ท่านพ่อได้โปรดช่วยข้าด้วยนะเจ้าคะ" ลั่วเยวี่ยอิงพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย น้ำตาที่เอ่อคลอนั้นทำให้นางดูน่าสงสารยิ่งนัก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วไห่ผิงก็กำหมัดแน่นอีกครั้ง โดยคิดว่าลั่วชิงยวนทำเรื่องยุ่งเหยิง เพียงเพราะเรื่องของแม่นาง เขาก็โกรธจนหน้าเขียว
ก่อนจะชี้ไปที่ลั่วชิงยวนและตะโกนอย่างโหดเหี้ยม "เจ้าไปโดนอะไรมา จู่ ๆ ถึงได้ต้องการตามหาสมบัติของแม่เจ้า สมบัติของแม่เจ้าถูกฝังไว้กับศพนางไปนานแล้ว! ยังจะทำตัวไร้สาระหาเรื่องมารังแกน้องสาวของเจ้าอีก ถ้าเจ้ารู้จักความได้สักครึ่งหนึ่งของนาง ข้าก็คงมิต้องอับอายขายขี้หน้าเยี่ยงนี้!”
เมื่อนึกถึงขุนนางเหล่านั้นที่ล้อเลียนเรื่องการอบรมสั่งสอนบุตรสาวของเขาทั้งต่อหน้าและลับหลัง เขาก็รู้สึกเต็มไปด้วยความโกรธ
ลั่วชิงยวนทั้งขุ่นเขืองทั้งไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ลั่วเยวี่ยอิงเพิ่งจะยอมรับกับนางว่าเป็นผู้ที่เอาสมบัติของแม่นางไป!
“ท่านพ่อ ก่อนที่ท่านจะมา ลั่วเยวี่ยอิงเป็นคนยอมรับกับข้าเองว่า นางเป็นคนนำสมบัติของแม่ข้าไป นั่นเป็นของของแม่ข้า ข้าต้องการมันกลับคืนมา แล้วข้าผิดอะไรงั้นหรือ ทำไมท่านถึงได้เอาแต่โทษข้าเยี่ยงนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
พระเอกก็โง่ นางเอกก็งี้เง่าไม่สมเหตุสมผลอะไรสักอย่าง ตอนแรกก็อวยยศเป็นถึงปรมาจารย์ แต่สกิลอ่อนด๋อยมาก เสียเวลาอ่านจริงๆ จะครึ่งเรื่องละยังไม่มีสาระอะไรเลย...
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...