ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 22

ทุกคนตกตะลึง เมื่อเงยหน้ามองไป พวกเขาเห็นชายผู้หนึ่งในชุดผ้าทอก้าวเข้ามาอย่างมั่นคงช้า ๆ ด้วยลักษณะท่าทางที่ดุดัน

ฟู่เฉินหวนชำเลืองมองไปที่ลั่วชิงยวนที่เปื้อนเลือดอยู่บนพื้นพลางขมวดคิ้วแน่น เขาตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของนางเรื่องการตัดความสัมพันธ์ ในเมืองหลวงแห่งนี้จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่กล้าตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวของตนเช่นนี้?

หลายวันมานี้เขาสังเกตเห็นว่า ลั่วชิงยวนนั้นเปลี่ยนไป แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่านางจะกล้าพูดเช่นนี้ น้ำเสียงที่หนักแน่น และจิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ทำให้เขารู้สึกประทับใจเล็กน้อย

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดินเข้ามาในประตู

“กระหม่อมมิทราบว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาที่นี่” ลั่วไห่ผิงรีบกำปั้นกำไว้ที่หน้าอกทักทาย “วันนี้กระหม่อมใช้กฎครอบครัวเพื่อสั่งสอนบุตรสาวของกระหม่อม ช่างน่าขายหน้าต่อท่านอ๋องยิ่งนัก”

ลั่วไห่ผิงรู้สึกผิดที่บุตรสาวของเขาทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นการแต่งงานแทน จึงได้ลดท่าทีลง

ใบหน้าของฟู่เฉินหวนนั้นยังคงเย็นชา เขาเหลือบมองลั่วชิงยวนที่อยู่บนพื้น "ครั้งนี้นางกระทำอันใดผิดกัน เหตุใดท่านถึงได้ใช้กฎครอบครัวเฆี่ยนตีนางเช่นนี้"

ลั่วไห่ผิงหน้าเสียเล็กน้อย และพูดขึ้นอย่างกระอักกระอ่วน "กระหม่อมได้ยินมาว่า นางสร้างปัญหามากมายให้กับท่านอ๋องในตำหนัก ทั้งหมดเป็นความผิดของกระหม่อมที่เลี้ยงบุตรสาวมิดีเองพ่ะย่ะค่ะ แต่ท่านอ๋องก็ยังไม่ทรงเอาเรื่องนาง ดังนั้นกระหม่อมจำเป็นต้องสั่งสอนนางเสียหน่อย นางจะได้มิสร้างปัญหาให้แก่ท่านอีกพ่ะย่ะค่ะ"

เมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาของฟู่เฉินหวน ลั่วเยวี่ยอิงก็รู้สึกเหงื่อออก ท่านอ๋องคงมิได้เสด็จมาที่นี่เพื่อช่วยลั่วชิงยวนใช่หรือไม่?

อย่างไรก็ตาม คำพูดต่อมาของฟู่เฉินหวนทำให้นางรู้สึกโล่งใจ

"ที่แท้ก็เป็นเรื่องภายในจวน เช่นนั้นก็ควรสอนบทเรียนแก่นางเสีย ข้าเพียงแต่คิดว่า ท่านอัครเสนาบดียังมิโหดร้ายพอ" สีหน้าของฟู่เฉินหวนเรียบนิ่ง น้ำเสียงเย็นชาของเขานั้นคมเหมือนใบมีด

ลั่วชิงยวนที่เพิ่งถูกจือเฉาพยุงให้ลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก เมื่อได้ยินคำพูดของฟู่เฉินหวน และเมื่อนางเงยหน้าขึ้น นางก็เห็นดวงตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความขยะแขยงของเขา นางรู้สึกราวกับมีมีดแทงซ้ำเข้าที่หัวใจ และรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง

นางคิดว่า เขาจะมาช่วยนางเสียอีก คิดไม่ถึงว่าเขามาที่นี่เพื่อทำให้เรื่องเลวร้ายลงกว่าเดิม!

นางหัวเราะเยาะตัวเอง หัวของนางยังคงวิงเวียนก่อนที่จะสลบไป

“พระชายา! พระชายาเจ้าคะ!” จือเฉาตื่นตระหนก

พูดจบ นางก็มองไปที่ลั่วชิงยวนที่หมดสติอยู่ และขอร้องด้วยสีหน้าเป็นกังวล "ท่านพ่อ ท่านพี่เองก็ได้รับโทษแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตนางเถิดเจ้าค่ะ"

ลั่วไห่ผิงพยักหน้า "กระหม่อมรีบร้อนเกินไป ขอท่านอ๋องโปรดทรงประทานอภัย"

ฟู่เฉินหวนก็สุภาพขึ้นเล็กน้อย "ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว หากมีคนตายมันจะดูไม่ดีสำหรับทั้งสองตระกูล สำหรับลั่วชิงยวน ข้าจะจัดการนางเอง ไม่ต้องลำบากให้ท่านอัครเสนาบดีต้องมาลงมือด้วยตนเองเช่นนี้"

“ท่านอ๋องตรัสถูกแล้ว พาลั่วชิงยวนไปส่งที่เรือน” ลั่วไห่ผิงหันไปสั่งคนรับใช้ในทันที

อารักขาสามคนเข้ามา และยกลั่วชิงเหยวียนขึ้น

ลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง จิตใต้สำนึกสั่งให้นางคว้าเสื้อผ้าของคนข้าง ๆ และพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้น "เอาสมบัติของแม่ข้าคืนมา... แล้วข้าจะไปจากที่นี่ และตัดความสัมพันธ์กับตระกูลลั่ว..."

จู่ ๆ ถูกลั่วชิงยวนจับเข้าที่เสื้อผ้า ฟู่เฉินหวนก็ผงะเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย