แม่นมเติ้งร้องขึ้นอย่างตกใจ “อุ๊ย คุณหนูรอง มือของคุณหนู!”
นางรีบเข้าไปประคองลั่วเยวี่ยอิง พลางก่นด่า “ท่านช่างเป็นหญิงที่ร้ายกาจนัก แย่งงานแต่งคุณหนูรองไปแล้ว คุณหนูยังใจดีป้อนยาให้ ท่านยังกล้าผลักคุณหนูอีก!”
ทันใดนั้น ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้อง ปรี่ไปที่ลั่วเยวี่ยอิงด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนก “เยวี่ยอิง!”
ลั่วเยวี่ยอิงขมวดคิ้ว และยกฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของนางขึ้น ทำให้ผู้ที่มองเห็นรู้สึกสงสารยิ่งนัก
ฟู่เฉินหวนมองไปที่มือของลั่วเยวี่ยอิงที่เต็มไปด้วยเลือด ก่อนจะมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาอาฆาต
ลั่วชิงยวนรีบพูดขึ้นทันที “หม่อมฉัน…”
แต่ยังไม่ทันที่จะได้อธิบาย ก็มีเงาปกคลุมมาที่นางก่อนที่ร่างของนางจะถูกกระชากลงมาจากเตียง จนล้มตัวลงกับพื้น ยังไม่ทันที่จะได้ทรงตัว มือใหญ่ก็ตวัดลงมาอย่างแรง
ทันใดนั้น ในหัวของนางก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้น ก่อนจะรู้สึกแสบร้อนและระบมที่แก้ม
ยังไม่ทันที่นางจะได้สติ ลั่วเยวี่ยอิงรีบคว้าแขนเสื้อฟู่เฉินหวน และขอร้องอ้อนวอน “ท่านอ๋องข้ามิระวังเอง อย่าโทษท่านพี่เลยเพคะ!”
แม่นมเติ้งรีบฟ้องท่านอ๋องทันที “ท่านอ๋อง หม่อมฉันเห็นกับตาว่า คุณหนูรองป้อนยาให้ แต่พระชายามิรับน้ำใจมิพอ นางยังผลักคุณหนูอีก ถึงแม้ว่าคุณหนูรองจะจิตใจดีมิเอาเรื่อง แต่ก็ใช่ว่าจะมารังแกคุณหนูแบบนี้ได้นะเพคะ!”
“พาคุณหนูรองออกไปทำแผล” ฟู่เฉินหวนสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เพคะ” แม่นมเติ้งพยุงลั่วเยวี่ยอิงแล้วพาจากไป
ในห้องเหลือเพียงลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวน เขาก้มลงมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต นิ้วเย็นเฉียบบีบคางของนางอย่างรุนแรง หากนิ้วนี้อยู่บนคอของลั่วชิงยวนในตอนนี้ นางคงถูกบีบคออย่างแน่นอน
“คิดว่าตัวเองเป็นพระชายาจริง ๆ อย่างนั้นรึ? ถ้าหากมิใช่ลั่วเยวี่ยอิงขอเอาไว้ ข้าคงฆ่าเจ้าไปนานแล้ว! ถ้ายังมีครั้งต่อไป มือไหนที่เจ้าทำร้ายนาง ข้าจะตัดมือนั้นของเจ้าทิ้งซะ!”
น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยความโกรธ และคำพูดของเขาก็รุนแรงจนหัวใจของคนฟังสั่นสะท้าน
ลั่วชิงยวนปิดแก้มที่ร้อนผ่าว นางเย้ยหยันด้วยสายตาพลางพูดขึ้นว่า “ตาคู่ไหนของท่านที่มองเห็นว่าข้าทำร้ายนาง!”
“แม่นมเติ้งเป็นพยาน เจ้ายังจะกล้าเถียง?!” ฟู่เฉินหวนทั้งตกใจ ทั้งโกรธที่ผู้หญิงคนนี้เรียนรู้ที่จะเถียง! แต่ก็ไม่แปลก ผู้หญิงคนนี้มีจิตใจที่ชั่วร้าย แต่ตอนนี้นางได้ถูกเปิดโปงจนหมดแล้ว
ลั่วชิงยวนโกรธมากจนทนไม่ไหว นางไปหาเรื่องใครกัน ตั้งแต่มานี่ก็ถูกทุบตีเลยทันที
นางสังเกตใบหน้าของฟู่เฉินหวน ลักษณะใบหน้าที่คมชัดและลึกล้ำ ดวงตาเรียวยาวสวยงาม ดั้งจมูกสูงและตรง คิ้วดูเหมือนมังกรที่เงยหัวขึ้นเล็กน้อย มันเป็นความสง่างาม
แต่น่าเสียดายที่เขาจะอยู่ได้เพียงไม่นาน
“คนที่ตัดสินคนจากรูปร่างหน้าตา ไม่น่าแปลกใจเลยที่หัวใจของเขาจะมืดบอด ดวงตาของท่านอ๋องแดงก่ำ จุดยิ้นถาง(1)มีประกายแดง เป็นคนที่โกรธโมโหง่าย หน้ามืดตามัว และจะมีการนองเลือดในอนาคตอันใกล้นี้! ท่านถูกผู้หญิงบังตา ดังนั้นระวังจะตายด้วยน้ำมือของสตรี!”
นางเป็นนักบวชผู้เป็นที่เคารพนับถือแห่งแคว้นหลี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านโหงวเฮ้ง และนางไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว!
เมื่อดูจากการปกป้องลั่วเยวี่ยอิงของฟู่เฉินหวนด้วยแล้ว นางกล้ายืนยันได้เลยว่า ฟู่เฉินหวนจะถูกลั่วเยวี่ยอิงปลิดชีพอย่างแน่นอน
เนื่องลั่วเยวี่ยอิงไม่ได้อยากจะอภิเษกสมรสกับเขา! มิเช่นนั้นนางจะขอให้ลั่วชิงยวนแต่งงานแทนทำไมกัน?
หากไม่ได้ความร่วมมือจากลั่วเยวี่ยอิง ลั่วชิงยวนก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาในตำหนักอ๋องที่มีการป้องกันแน่นหนานี้ได้อย่างราบรื่น ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งไม่สามารถทำร้ายเจ้าสาวที่อยู่ในห้องหอได้อย่างแน่นอน
ใครจะรู้ว่า เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินนางพูดเป็นนัยว่า ลั่วเยวี่ยอิงมีส่วนเกี่ยวข้อง สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมา ก่อนจะเอื้อมมือไปบีบคอนาง และพูดเสียงเหี้ยม “เจ้าคงอยากให้ข้าตัดลิ้นเจ้ารึ?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
พระเอกก็โง่ นางเอกก็งี้เง่าไม่สมเหตุสมผลอะไรสักอย่าง ตอนแรกก็อวยยศเป็นถึงปรมาจารย์ แต่สกิลอ่อนด๋อยมาก เสียเวลาอ่านจริงๆ จะครึ่งเรื่องละยังไม่มีสาระอะไรเลย...
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...