“มันไม่ใช่ของข้า” ลั่วชิงยวนกล่าวหนักแน่น
ใต้เท้าฟางยิ้มอย่างเย็นชา "ลั่วชิงยวน อย่าหวังว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการจักมาหาเจ้าเลย คราวนี้เป็นรับสั่งจากไท่ซ่างหวง เรื่องนี้ต้องสืบส่วนอย่างถี่ถ้วน เจ้าก่ออาชญากรรม เจ้าก็ต้องให้ความร่วมมือและสารภาพ!"
“หากเจ้าสารภาพตรงไปตรงมา เช่นนั้นอาจมีการผ่อนปรนโทษให้เจ้า!”
วาจาแฝงนัยข่มขู่เช่นนี้ ทำให้ผู้ที่ได้ยินต้องสั่นสะท้าน
ฟู่เฉินหวนจะมิมาหานาง แม้นางตายก็ไม่มีผู้ใดมาช่วย
ลั่วชิงยวนตะคอกอย่างเย็นชา “ข้ามิผิด สิ่งที่ข้าพูดออกไปวันนี้ล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น! อาชญากรรมรึ? ผ่อนปรนโทษรึ?"
“เจ้าอยากให้ข้าสารภาพเช่นไรก็บอกมาให้ชัดเจนเลยมิดีกว่ารึ?”
นางรู้ว่าครั้งนี้นางออกไปมิได้ง่าย ๆ แน่
น้ำเสียงของใต้เท้าฟางเย็นชาและพูดช้า ๆ “ทุกคนต่างเห็นเหตุการณ์วันนี้ชัดเจนแล้ว ลางร้ายนั้นมุ่งไปที่อ๋องผู้สำเร็จราชการ”
“เจ้าแค่ต้องสารภาพมาตามตรงว่า หุ่นเชิดนี้เป็นของเจ้าหรือไม่ หากเจ้าสารภาพ เช่นนั้นเจ้าก็ออกจากวังได้”
ประโยคนี้ทำลั่วชิงยวนสนใจนัก
คนพวกนี้ยังมิยอมล้มเลิกใส่ร้ายฟู่เฉินหวน
ตราบใดที่นางบอกว่าหุ่นเชิดนี้เป็นของนาง และนางโกหกเพื่อช่วยฟู่เฉินหวน
ดังนั้นที่ว่าพระวิญญาณบรรพบุรุษของราชวงศ์มิยอมรับฟู่เฉินหวน ก็จะเป็นหลักฐานที่หักล้างมิได้
นางยิ้มอย่างดูถูก “ใต้เท้าฟาง จงฟังให้ดี หุ่นเชิดมิใช่ของข้า! ข้ามิเคยทำเรื่องเช่นนี้!”
นางเรียกใต้เท้าฟางสามคำชัดเจน ทำให้ใต้เท้าฟางประหลาดใจและรู้สึกถึงภัยคุกคามรุนแรง
เขาตะโกนด้วยความโกรธทันที “ดี ข้าพยายามคุยกับเจ้าแล้วแต่เจ้ามิฟัง เช่นนั้นขั้นต่อไปก็มิใช่การเจรจาแล้ว!”
ใต้เท้าฟางลุกขึ้นเดินออกไปด้วยความโกรธ
หลังจากที่ใต้เท้าฟางออกจากห้องไปแล้ว อีกสองคนก็เดินเข้ามา
มีเสียงไม้ที่ถูกลากไปบนพื้น
เสียงนั้นทำให้ผู้ฟังสั่นไปถึงสันหลังได้
ครู่ต่อมา สองมือก็กดบนไหล่ของนาง ดึงมือของนางไปข้างหน้า วางบนแท่งไม้เย็น
ความเจ็บปวดสาหัสก็แล่นผ่านนิ้วของนางในทันใด
“อ๊า!”
นิ้วเกร็งไปจนถึงหัวใจ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้นางกัดฟัน
ความเจ็บปวดอันหนักหน่วงแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ทำให้นางทุกข์ทรมาน!
ด้วยการทรมานอย่างต่อเนื่อง ลั่วชิงยวนเจ็บปวดมากจนแทบจะล้มลง
ใบหน้าที่อยู่ใต้หน้ากากนั้นซีดไปแล้ว เหงื่อกาฬหยดลงมาตามขอบหน้ากากทีละหยด
หลายครั้งที่นางรู้สึกว่านิ้วมือตนกำลังจะหัก ในขณะที่ความเจ็บปวดเริ่มชา ความเจ็บปวดสาหัสก็เข้ามาอีกระลอกหนึ่ง
คนนอกประตูเข้ามาในห้องอีกครั้ง
ในที่สุดลั่วชิงยวนก็มีโอกาสให้หายใจ และล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
ใต้เท้าฟางเอามือไพล่พลางหลังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “เจ้าจักสารภาพได้แล้วหรือยัง?”
ลั่วชิงยวนทนต่อความเจ็บปวดและเงยหน้าขึ้นพูดอย่างอ่อนแรง “ข้าจักสารภาพแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...