ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 437

นางใช้วิธีนี้มาบังคับเขา!

ฟู่เฉินหวนหันร่างจากไปอย่างขุ่นเคือง

“ท่านอ๋อง ทำเช่นไรดีพ่ะย่ะค่ะ?” ซูโหยวเอ่ยถามอย่างกังวล

ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดหัวอย่างยากจะทน สมองเขาราวกับกำลังจะระเบิดออก

“ส่งลั่วเยวี่ยอิงกลับไป!”

“นางกำลังข่มขู่ตัวข้า!”

ซูโหยวรีบขานตอบ “พ่ะย่ะค่ะ!”

จากนั้นลั้วเยวี่ยอิงก็ถูกยกขึ้นรถม้าทั้ง ๆ ที่ยังสลบอยู่ และส่งออกจากตำหนักในคืนนั้นทันที

มองดูรถม้าที่ห่างไกลออกไป ฟู่เฉินหวนมองไปทางลั่วชิงยวนด้วยคิ้วขมวด “เจ้ายังมิลุกอีกรึ? แสดงละครพอรึยัง?”

ลั่วชิงยวนอยากจะลุก แต่เข่าของนางคุกเข่านานจนแข็งทื่อ เมื่อลุกขึ้นนางจึงเกือบจะล้มลง

แต่แขนข้างหนึ่งกลับพยุงนางไว้โดยสัญชาตญาณ

ลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย

ฟู่เฉินหวนเองก็ชะงักเช่นกัน

ลั่วชิงยวนรีบยืนตัวตรง และเอ่ยปากเสียงเย็น “ท่านอ๋อง หม่อมฉันมิได้แสดงละคร หม่อมฉันกำลังขอให้ท่านน้องยกโทษด้วยความจริงใจ!”

“หวังว่าครั้งหน้านางอย่ามาขโมยของของหม่อมฉัน และทำร้ายคนของหม่อมฉันอีก นางอยากได้สิ่งใด หม่อมฉันย่อมให้นาง”

ฟู่เฉินหวนมองนางที่พูดเหลวไหลต่อหน้าผู้คน ในใจเกิดไฟโทสะพิลึกขึ้น “งั้นหรือ? เจ้าให้จริงหรือ?”

ลั่วชิงยวนยกเป็นรอยยิ้มอ่อน ๆ ขึ้น “หม่อมฉันจักมิกล้าให้ได้เยี่ยงไร นั่นเป็นถึงคนสำคัญในใจของท่านอ๋อง”

แม้จะพูดเช่นนี้ แต่สายตานางกลับเต็มไปด้วยแววเย้ยหยัน

นางเดินไปทางหน้าประตูก้าวใหญ่ เมื่อผ่านข้างกายฟู่เฉินหวน นางกดเสียงต่ำพร้อมเอ่ย “โรคของลั่วไห่ผิง ท่านอ๋องคิดว่าแค่โสมร้อยปีจักช่วยได้จริงหรือ?”

“หม่อมฉันสามารถช่วยลั่วไห่ผิงได้”

“ทั้งเมืองหลวงนี้ก็มีเพียงหม่อมฉันเท่านั้นที่สามารถช่วยได้!”

“ท่านอ๋องอยากช่วยเขาหรือไม่? ขอร้องหม่อมฉันสิเพคะ”

นางยกยิ้มเย็น และก้าวขาจากไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย