ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 495

“ส่วนเรื่องที่เจ้าคิดกระทำอันใดก็สุดแท้แต่เจ้า ข้ามิใช่คนจำพวกที่จะก้าวก่ายเรื่องของผู้อื่น”

“ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ข้ามอบให้แล้วไม่มีทางเอากลับคืนเป็นอันขาด!”

เมื่อฟู่จิ่งหลีทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนตระกูลหลิว เขาเองก็รู้สึกเสียใจแทนแม่นางฝูเสวี่ย แต่เขาก็เข้าใจว่าเสด็จพี่สามเป็นห่วงเรื่องแคว้นบ้านเมือง

อย่างไรเสียเขาก็ได้ยินมาว่าหลิวหม่านลอบโยกย้ายเงินบรรเทาทุกข์บางส่วน หากเสด็จพี่สามลงมือช้ากว่านี้อีกสักวันก็คงจะสายเกินไป

นั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้เขาคิดจะอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ แทนเสด็จพี่สาม

“ขอบพระทัยที่เข้าใจเพคะ องค์ชายเจ็ด” ลั่วชิงยวนผงกศีรษะเล็กน้อย

“แม่นางฝูเสวี่ย ไฉนเจ้าต้องเกรงใจข้าถึงเพียงนั้นด้วย?” ฟู่จิ่งหลียิ้มให้

“จริงด้วยสิ วันนี้ข้าได้ยินมาว่าเจ้าก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในหอเจาเซียง ข้าต้องชื่นชมในความใจกล้าบ้าบิ่นของแม่นางฝูเสวี่ยจริง ๆ! หอเจาเซียงแห่งนั้นใช่ว่าผู้ใดจะเข้าไปข้องแวะได้หรอกนะ!”

“แม่นางฝูเสวี่ย เจ้าควรจะระวังตัวให้ดี”

ฟู่จิ่งหลีเอ่ยเตือนสติ

แววตาของลั่วชิงยวนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางเคยตกหลุมพรางของท่านอาฉินผู้นั้นมาหนหนึ่งแล้ว นางย่อมไม่มีทางตกหลุมพรางเป็นหนที่สองแน่

คราวนี้หอเจาเซียงจะต้องจบสิ้น!

“ขอบพระทัยที่เตือนเพคะ องค์ชายเจ็ด”

หลังจากนั่งอยู่กับฟู่จิ่งหลีได้สักพัก เขาก็กลับไป

……

หลังจากวันนี้ที่ลั่วชิงยวนก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในหอเจาเซียงแล้ว หอเจาเซียงก็ปิดประตูมิได้เปิดดำเนินกิจการ

ค่ำคืนแล้วก็ยังมิเปิดกิจการอีก

ลั่วชิงยวนอยู่ในหอฝูเสวี่ย มิได้ออกไปที่ใด เพราะนางรู้ว่าท่านอาฉินคงจะเตรียมการลงมือสังหารเอาไว้แล้ว

รอคอยจนกระทั่งดึกดื่นเที่ยงคืน

จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากข้างนอก แต่หลังจากนั้นทั้งหอก็ดูเหมือนจะเงียบสงัดลง

ลั่วชิงยวนลุกขึ้นไปเปิดประตูแล้วเดินขึ้นชั้นสอง

จากนั้นนางก็เห็นคนของทางการบุกเข้ามาในหอฝูเสวี่ยแล้วควบคุมทั้งหอฝูเสวี่ยเอาไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย