ลั่วชิงยวนถูกนำตัวไปขังคุกยังคุกหลวง ในฐานะผู้กระทำความผิดร้ายแรง บรรยากาศภายในคุกทั้งมืดและชื้น ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ประตูห้องขังถูกล็อกและเสียงฝีเท้าก็ค่อย ๆ หายไป ความเงียบงันเข้าปกคลุมหัวใจของลั่วชิงยวนทันที
นางสงบสติอารมณ์นั่งลงบนกองฟาง
เครื่องประดับทองคำเหล่านั้นถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีและมิได้ถูกปรับเปลี่ยนไปแต่อย่างใด สิ่งเหล่านั้นล้วนแต่เป็นของกำนัลที่องค์ชายเจ็ดมอบให้ ตราบใดที่องค์ชายเจ็ดได้ของทุกชิ้นมาอย่างถูกต้อง นางก็จะไม่เป็นอะไร
แต่นางยังต้องการให้องค์ชายเจ็ดเป็นพยานให้นางด้วย
ขณะที่นางครุ่นคิดอยู่นั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน
จากนั้นร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูห้องขัง
ทันทีที่หมวกคลุมสีดำถูกยกขึ้น ใบหน้าของท่านอาฉินก็ปรากฏให้เห็น
ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ท่านอาฉินผู้นี้มิธรรมดาเลย นางสามารถเข้านอกออกในคุกใต้ดินได้อย่างอิสระ
“แม่นางฝูเสวี่ยดูใจเย็นมาก เจ้าคงกำลังรอองค์ชายเจ็ดอยู่กระมัง?” ท่านอาฉินยกยิ้ม
“น่าเสียดายที่ในขณะนี้ องค์ชายเจ็ดและอ๋องผู้สำเร็จราชการ พวกเขาทั้งคู่ยังคงอยู่ในวัง องค์ชายเจ็ดเองก็มิอาจปกป้องตัวเองได้ ข้าเกรงว่าเขาคงมาช่วยเจ้ามิได้เช่นกัน”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง
ท่านอาฉินผู้นี้แข็งแกร่งมาก แม้แต่กับองค์ชายเจ็ดเองก็ด้วยหรือ?
ลั่วชิงยวนลุกขึ้นยืน เดินไปที่ประตูห้องขัง ดวงตาของนางจับจ้องไปยังท่านอาฉิน “เจ้าทำงานให้ผู้ใด?”
ตอนนี้นางชักสงสัยแล้วว่ายังมีคนในหอสมุทรมรกตรอดชีวิตมาได้อีก บางทีท่านอาฉินผู้นี้อาจมิใช่ผู้บงการ แต่เป็นเพียงผู้สมรู้ร่วมคิด
หากเป็นเช่นนั้น ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมคนทุกคนในหอสมุทรมรกต มีความเกลียดชังต่อหอสมุทรมรกตมากมายเพียงใดกัน?
ดวงตาของท่านอาฉินเย็นลงเล็กน้อย นางเอ่ยถามอย่างเย็นชา “แล้วเจ้าเล่า เจ้าทำงานให้ผู้ใด?”
“หากเจ้าอธิบายให้ชัดเจนได้ ข้าอาจละเว้นชีวิตเจ้าก็ได้”
ท่านอาฉินไม่มีทางเชื่อว่า สตรีนามว่าฝูเสวี่ยจะปรากฏตัวขึ้นในใต้หล้านี้ด้วยความบังเอิญ อีกทั้งนางยังร่ายรำได้เหมือนกับลิ่นฝูเสวี่ยอย่างไม่มีผิดเพี้ยนอีกด้วย
นางไม่มีทางเชื่อว่าสตรีนามว่าฝูเสวี่ยนางนี้จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้เพียงลำพัง ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังนางแน่นอน!
ลั่วชิงยวนพิจารณาอย่างลึกซึ้ง "เช่นนั้นหากข้าบอกเจ้า เจ้าจักปล่อยข้าไปจริง ๆ รึ เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังจะยอมปล่อยข้าไปจริง ๆ อย่างนั้นรึ? อย่างไรเสีย ข้าก็มีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับลิ่นฝูเสวี่ย เขาจักมิกลัวงั้นรึ?”
ท่านอาฉินดูคล้ายเพิ่งเคยได้ยินเรื่องตลกขนาดนี้เป็นครั้งแรก นางแสดงท่าทีเย้ยหยัน “ลิ่นฝูเสวี่ย นางหาได้มีสิ่งใดพิเศษไม่ นางมิได้ดีเด่นอะไรขนาดที่จะพัวพันกับทั้งหอสมุทรมรกตได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
พระเอกก็โง่ นางเอกก็งี้เง่าไม่สมเหตุสมผลอะไรสักอย่าง ตอนแรกก็อวยยศเป็นถึงปรมาจารย์ แต่สกิลอ่อนด๋อยมาก เสียเวลาอ่านจริงๆ จะครึ่งเรื่องละยังไม่มีสาระอะไรเลย...
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...