“เช่นนั้นท่านอ๋องเหมาหอฝูเสวี่ยครึ่งเดือน เพราะอยากได้สิ่งใดกัน?”
เสียงของฟู่เฉินหวนเยือกเย็น “ให้ครึ่งเดือนนี้ของเจ้า ปรนนิบัติเพียงข้าคนเดียว!”
ลั่วชิงยวนยิ้มเบาทีหนึ่ง “ได้สิ หากท่านอ๋องทรงมีกำลังเช่นนั้น ก็เสด็จมาทุกวันเถิดเพคะ”
“หม่อมฉันอยากให้เสด็จมาเสียเหลือเกิน”
นางกัดฟันพูดเสียงเข้ม
มุมปากของฟู่เฉินหวนกลับเผยเป็นรอยยิ้ม “ได้ เช่นนั้นก็รำเทพเหมันต์ก่อนเลย”
บัดนี้ เสียงครึม ๆ ของลิ่นฝูเสวี่ยดังขึ้น “ท่านเซียนน้อย การจู๋จี๋ระหว่างสามีภรรยา ข้ามิเล่นด้วยล่ะ ท่านรำเองเถิด”
พูดจบ ลิ่นฝูเสวี่ยจึงแอบออกจากห้องไป
ลั่วชิงยวนลุกขึ้น เดินไปกลางห้อง และเริ่มร่ายรำเทพเหมันต์
แต่ฟู่เฉินหวนมองท่วงท่าร่ายรำ ที่แม้จะมิผิด แต่กลับมิมีกลิ่นอายเสน่ห์หา กระทั่งสายตายังมิเหมือนกันแต่นิด
เมื่อร่ายรำต่อหน้าเขา นางมิใส่ใจเช่นนี้เลยหรือ!
ฟู่เฉินหวนคิดถึงรำเทพเหมันต์ที่นางร่ายรำบนเวที เมื่อเทียบกับนางในตอนนี้ ตอนนั้นนางกำลังยั่วยวนอยู่เห็น ๆ มิใช่หรือ!
มือที่ถือจอกเหล้าของเขา บีบแรงอย่างมิรู้ตัว
และแล้วจอกเหล้าก็แตก เศษแก้วบาดฝ่ามือของเขา
“นี่คือรำเทพเหมันต์หรือ!” น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเย็นเยือก และเต็มไปด้วยโทสะ
ลั่วชิงยวนหยุดรำ และมองไปทางเขา “นี่มิใช่รำเทพเหมันต์แล้วคือสิ่งใดเพคะ?”
“หากท่านอ๋องรู้สึกว่าหม่อมฉันรำมิดี ท่านสามารถเปลี่ยนคนได้เพคะ”
ว่าแล้ว บุรุษนั้นก็เหมือนกันหมด
ชอบสตรีที่อรชรหยาดเยิ้ม
หากมิใช่เช่นนั้น ฟู่เฉินหวนคงมิสนใจหอฝูเสวี่ยแต่นิด
ที่เขาอยากดู คือการร่ายรำของลิ่นฝูเสวี่ย
ลิ่นฝูเสวี่ยเคยสอนนาง การร่ายรำมิได้รำเพียงท่า แต่ต้องถึงจิตวิญญาณ
ในใจมีความรู้สึก นัยน์ตาจึงมีความรู้สึก เช่นนี้เจ้าจึงสามารถร่ายรำวิญญาณของบทเพลงออกมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...