ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 55

"ใจร้ายเกินไปแล้ว!"

เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเสียงเหล่านี้ นางก็ยิ้มเยาะนิด ๆ พลางมองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาเย็นชา "ท่านอ๋อง หม่อมฉันขอถามเป็นประโยคสุดท้าย ท่านทรงคิดจะขับไล่หม่อมฉันไปจริง ๆ ใช่หรือไม่เพคะ?"

การจ้องมองที่เย็นชาของนางมีทั้งความขุ่นเคืองและการคุกคาม

ฟู่เฉินหวนนึกถึงอาคมชุมนุมปีศาจในตำหนักอยู่ชั่วอึดใจ แต่หลังจากนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว อาคมชุมนุมปีศาจนี้ก็เป็นแค่เรื่องที่ลั่วชิงยวนเอ่ยขึ้นมาเท่านั้น ไม่ว่ามันจะมีอยู่จริงหรือไม่ ร้ายกาจสักแค่ไหน ผู้ใดจะล่วงรู้กันเล่า

สตรีผู้นี้มีเจตนาไม่ดี ใครจะรู้ว่า นางซ่อนกลอุบาย หรือแผนการร้ายกาจแบบไหนเอาไว้ เพื่อความสงบสุขแล้ว ควรขับไล่นางออกไปเสีย!

สำหรับจวนอัครเสนาบดีแล้ว เมื่อเห็นท่าทีที่ลั่วไห่ผิงมีต่อลั่วชิงยวน เขาไม่รักใคร่บุตรสาวผู้นี้เลยสักนิด ถ้าหากเขาหย่ากับนาง ลั่วไห่ผิงก็คงจะไม่ว่าอะไรหรอก

เขาคิดจะเอ่ยปากพูดออกไป…

ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้ส่งเสียงออกไป จู่ ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาจากท้องถนนแล้วมุ่งหน้ามาที่ประตูตำหนักอ๋อง

"ตำหนักอ๋องทำลายชีวิตบุตรสาวของข้า ขอตำหนักอ๋องได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่พวกเราด้วย!"

กลุ่มชาวบ้านที่โทสะพลุ่งพล่านต่างชูกำปั้นแล้วร้องตะโกนด้วยความเศร้าโศรกและคับแค้นใจ

เสียงดังกึกก้องและโกลาหลมากจนดึงดูดผู้คนที่สัญจรไปมาจำนวนมากให้มาชมการแสดง

การมาถึงอย่างกะทันหันของคนกลุ่มดังกล่าวทำให้แววตาของฟู่เฉินหวนพลันเย็นชาขึ้นมาทันที

ซูโหยวรีบออกมาด้วยหมายจะสลายฝูงชน "อย่าตะโกน อย่าตะโกนสิ เกิดอันใดขึ้น?!"

หญิงชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างแค้นเคืองว่า "บุตรสาวของข้าถูกพวกเจ้าพาไปให้ตาเฒ่าของตระกูลใหญ่แห่งหนึ่งข่มเหง! นางหนีกลับมาที่ตำหนักได้แต่กัลบถูกทรมานจนตายอย่างอนาถอยู่ข้างใน! พวกเจ้าไม่แม้แต่จะคืนศพมาให้เรา! สวรรค์จะต้องลงโทษพวกเจ้า!"

บุรุษวัยกลางคนอีกคนหนึ่งก็ลุกขึ้นเช่นกัน "ข้ามีบุตรสาวผู้นี้เพียงคนเดียว ถึงแม้ว่านางจะยากจนข้นแค้น แต่นางก็เป็นบุตรสาวที่ล้ำค่าของเรา! ตำหนักอ๋องข่มเหงคนและเห็นชีวิตผู้อื่นเป็นผักปลา! ถ้าหากวันนี้ข้าไม่ได้รับคำอธิบาย ข้าจะสาดโลหิตใส่หน้าตำหนักอ๋องเสียเลย!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย