ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 569

ลั่วชิงยวนรู้สึกตื่นตกใจอยู่บ้าง

ลั่วอวิ๋นสี่กล่าวว่า “ลำพังด้วยน้ำเสียงของข้าในยามนี้ หากข้าสวมหน้ากาก ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าข้าเป็นใครแล้ว”

“ข้าต้องแน่ใจว่าตัวข้าเองจะปลอดภัยเพื่อแก้แค้นให้ตระกูลของตัวข้าเองได้!”

“พี่สาวข้าทำเรื่องพวกนี้มิได้หรอก”

เมื่อนึกถึงลั่วหลางหลาง ลั่วชิงยวนเองก็รู้สึกเป็นกังวล หากลั่วหลางหลางรู้เรื่องนี้เข้า มิทราบว่านางจะเสียใจสักเพียงใด

“ได้” นางตอบรับคำขอร้องของลั่วอวิ๋นสี่

จากนั้นนางก็ลอบออกไปจากจวนมหาราชครูพร้อมกับลั่วอวิ๋นสี่ ลั่วอวิ๋นสี่พกเงินเหรียญติดตัวมาเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น มิได้นำสิ่งใดไปอีก

ลั่วชิงยวนพาอีกฝ่ายไปที่หอฝูเสวี่ย หลังจากชำระร่างกายและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์แล้ว อีกฝ่ายก็สวมหน้ากาก

ลั่วอวิ๋นสี่สวมชุดผ้าไหมสีเรียบอันสะอาดสะอ้าน ผมเกล้าเป็นทรงสูงและสวมหน้ากากเอาไว้ เพียงแค่ราตรีเดียว ท่าทางของอีกฝ่ายก็แปรเปลี่ยนไปชนิดสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ยามนี้อีกฝ่ายดูเหมือนบุรุษหนุ่มผู้มีท่าทีสุขุมมากกว่า…

เมื่อยืนอยู่หน้ากระจกสำริด ลั่วอวิ๋นสี่ก็ได้ยินเสียงแหบแห้งของตนเองค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า “นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่มีลั่วอวิ๋นสี่อีกแล้ว”

น้ำเสียงแหบแห้งของนางปกปิดแววเจือสะอื้นเอาไว้

เนื่องจากประกาศออกไปว่าลั่วอวิ๋นสี่เองก็ตายไปด้วยและตระกูลของท่านมหาราชครูก็ถูกฆ่าล้างตระกูล ใต้เท้าเหอก็ช่วยเก็บรวบรวมชิ้นส่วนและฝังร่างของลั่วหรง

ข้างหลุมฝังศพของท่านมหาราชครูลั่ว

ตกเย็นทั้งสองคนก็ไปเยี่ยมหลุมฝังศพของท่านอาลั่วหรง

ลั่วอวิ๋นสี่คุกเข่าลงกับพื้นแล้วร้องไห้อย่างมิอาจควบคุมได้

“ท่านแม่เจ้าคะ ข้ารู้ผิดแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้าเอง ท่านได้ยินหรือไม่?”

นางรู้สึกชิงชังตนเองที่เมื่อคืนมิได้ขอโทษอีกฝ่าย ยามนี้ต่อให้นางขอโทษเป็นพันครั้ง แต่ท่านแม่มิได้ยินนางอีกต่อไปแล้ว

“หลังจากท่านตาของเจ้าจากไปและพี่สาวของเจ้าออกเรือนไป ท่านอาลั่วหรงก็เป็นห่วงเจ้าที่สุด นางย่อมต้องเฝ้ามองดูเจ้าอยู่จากบนสวรรค์แน่ ขอเพียงเจ้าปลอดภัย นางก็คงรู้สึกสบายใจแล้ว”

ลั่วอวิ๋นสี่สูดจมูกอยู่นานก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า “ขอบใจ”

พวกนางอยู่จนถึงค่ำมืดดึกดื่นก่อนที่ทั้งสองคนจะกลับไป

เมื่อปิดประตูลง ลั่วชิงยวนก็บอกเล่าเงื่อนงำทั้งหมดที่นางพบให้ลั่วอวิ๋นสี่ฟัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย