ลั่วชิงยวนตอบแม่เล้าเฉินว่า “บอกว่าข้ากำลังพักผ่อนอยู่ ให้คุณชายฝูกลับมาวันหน้าเถอะ”
“เจ้าค่ะ” แม่เล้าเฉินเดินออกไป
ลั่วอวิ๋นสี่มองนางด้วยสีหน้าตกตะลึงสุดขีด “ข้าได้ยินว่าคุณชายฝูลุ่มหลงในตัวเจ้าถึงขั้นทุ่มเงินมหาศาลให้แก่เจ้า ตัวเจ้ารู้ว่าตระกูลฝูมีอันใดน่าสงสัยมานานแล้ว ถึงได้เจตนาเข้าหาเขาใช่หรือไม่?”
ลั่วชิงยวนตอบว่า “เดิมทีเรื่องพวกนี้หาได้เกี่ยวข้องกันไม่ ทว่ายามนี้พบว่าล้วนเชื่อมโยงกับขุมกำลังเดียวกัน”
“เรื่องมันยาวนัก ข้าจะค่อย ๆ เล่าให้เจ้าฟังก็แล้วกัน”
ลั่วชิงยวนครุ่นคิดแล้วเริ่มต้นจากหอสมุทรมรกต
ทั้งสองคนนั่งอยู่ในห้อง ส่วนลั่วอวิ๋นสี่ก็ตั้งใจฟังอยู่ตลอดทั้งคืน
หลังจากลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินเช่นนี้เข้า ก็ให้รู้สึกตกตะลึง “เจ้าสามารถหาเงื่อนงำได้ตั้งมากมายถึงเพียงนั้น ถึงเจ้าจะอยู่ในหอนางโลม แต่กลับลงมือกระทำเรื่องราวได้มากปานนั้นเชียว”
“ส่วนข้ากลับเหมือนคนโง่งมที่ถูกหลอกใช้ครั้งแล้วครั้งเล่า...”
ตอนนี้นางตระหนักแล้วว่าเมื่อก่อนได้กระทำเรื่องไร้ประโยชน์เอาไว้มากมายเพียงใด
เมื่อก่อนมีท่านตากับมารดาของนางคอยปกป้องคุ้มครอง นางจึงสามารถกระทำเรื่องอันใดก็ได้ตามที่ต้องการโดยมิต้องกังวลใจ เมื่อย้อนกลับมามองยามนี้ นางถึงได้เห็นว่ายามนั้นตนช่างน่าขันมากเพียงใดกัน
กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็สายไปแล้ว
เดิมทีลั่วชิงยวนก็คิดจะไปที่ศาลาว่าการเพื่อถามไถ่เรื่องสถานการณ์ พวกเขากำลังตามแกะรอยของสวีซงหย่วน แต่นางมิทราบว่าพวกเขาจะพบสิ่งใดบ้างหรือไม่
หากให้คำอธิบายโดยตัดสินให้สวีซงหย่วนเป็นผู้ร้ายก็ออกจะสุกเอาเผากินเกินไปสักหน่อย พวกเขาต้องรู้ให้ได้ว่ามีผู้ใดชักใยอยู่เบื้องหลังและสาเหตุที่ทำให้มันสังหารทุกคนในจวนมหาราชครู
ทว่าในวันนี้ ลั่วหลางหลางกับฟ่านซานเหอก็รีบกลับมาที่เมืองหลวงและมาถึงนอกจวนมหาราชครู
ก่อนที่จะผ่านประตูเข้ามา ลั่วหลางหลางก็ล้มลงกับพื้นแล้วร้องไห้หนักเสียจนลุกไม่ขึ้น อาการตื่นตกใจรุนแรงยิ่งนัก
ฟ่านซานเหอเองก็รู้สึกเจ็บปวดและคอยปลอบโยนนางอยู่ข้าง ๆ
ลั่วชิงยวนที่มองดูอยู่ไม่ไกลก็รู้สึกตื่นตระหนก
เรื่องใหญ่เช่นนั้นย่อมมิอาจปิดบังได้ แต่ลั่วหลางหลางกลับมาเร็วกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้
ในยามนี้เอง ก็มีรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ฟู่เฉินหวนลงรถม้า ประจวบเหมาะกับที่รถม้าอีกคันจอดลงแล้วลั่วเยวี่ยอิงก็เดินลงมาพอดี
“ท่านอ๋อง ท่านก็มาด้วยหรือเพคะ” ลั่วเยวี่ยอิงหน้าตาซีดขาวและสีหน้าฉายแววเศร้าใจ
“หม่อมฉันได้ยินมาว่าท่านอ๋องถูกลอบสังหาร มือของท่านอ๋อง...” ลั่วเยวี่ยอิงคว้ามือข้างที่ได้รับบาดเจ็บของฟู่เฉินหวนด้วยท่าทีร้อนรนกังวลใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...