ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 57

"ยังคิดจะหนีอีก!" ลั่วชิงยวนกัดฟันไล่ตามเขาไปแล้วคว้าไหล่ของหวังหมาจื้อเอาไว้ วันนี้นางถูกปรักปรำเพราะเรื่องนี้ ย่อมต้องหาตัวการที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ออกมาลงโทษให้จงได้!

แต่หวังหมาจื้อผู้นี้ก็ฝีมือมิใช่ย่อยจึงคว้าข้อมือของลั่วชิงยวนแล้วบิดไพล่หลัง ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวดมากจนแทบทนม่ไหว จากนั้นก็ถูกหวังหมาจื้อเตะเข้า ลั่วชิงยวนตอบสนองอย่างว่องไว สองแขนไขว้ตรงหน้าอกสกัดกั้น แต่มีพลังไม่เพียงพอจึงถูกเตะกระเด็นออกไป

นางถอยร่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างหนักอึ้งของตนเสียสมดุลจวนจะลมอยู่รอมร่อ

บาดแผลบนแผ่นหลังยังไม่หายดี เกรงว่าหากล้มลงไป อาจทำให้บาดเจ้บสาหัสเจียนร่างแหลกสลาย

แต่ทันใดนั้นเองวงแขนแกร่งคู่หนึ่งก็ช้อนแผ่นหลังของนางเอาไว้ จากนั้นก็ช่วยประคองให้นางลุกขึ้นทันที

นางรู้สึกตกใจอยู่บ้างและเมื่อหันหน้ากลับไป นางก็เห็นฟู่เฉินหวนที่สงบนิ่งและผ่อนคลาย

เขาจ้องมองนางด้วยดวงตาที่ลึกล้ำซับซ้อนแล้วถามว่า "เจ้าไม่รู้หรือว่าตัวเองอ้วนแค่ไหน?”

ใช้วิชาตัวเบาเพื่อจับคน?! โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จะอวดดีไปทำไมกันเล่า!

ตอนนี้องครักษ์จับตัวหวังหมาจื้อได้แล้วก็พาตัวกลับไปที่ตำหนักทันที

ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วใส่ฟู่เฉินหวน "แน่นอนหม่อมฉันย่อมรู้ตัวว่าอ้วนเพียงใด หากไม่เสี่ยงชีวิต แล้วจะจับคนคนนั้นได้อย่างไรกันเล่า”

ฟู่เฉินหวนน้ำเสียงเฉยชาพร้อมแสดงท่าทีดูแคลนออกมา "เสี่ยงชีวิต? เพราะหวังหมาจื้อเช่นนั้นรึ?"

ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเด็ดเดี่ยวและดึงดัน "ถ้าหากหม่อมฉันไม่สู้จนถึงตายแล้วจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างไรเล่า? หม่อมฉันถูกปรักปรำมากพอแล้ว!"

"ในสายตาของท่านอ๋อง นี่อาจจะเป็นแค่ผู้ที่จับตัวได้ง่าย ๆ แต่สำหรับหม่อมฉัน มันเป็นเรื่องของความบริสุทธิ์! หม่อมฉันไม่อาจเสี่ยงให้มันมีโอกาสหนีรอดไปได้แม้แต่น้อยเพคะ!"

เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินแช่นนี้ก็ตัวแข็งทื่อ แววตาลึกล้ำมืดลงครู่หนึ่ง และความคิดของเขาก็พลันสับสนมากขึ้น

เขาไม่เอ่ยวาจาใด หันหลังกลับเข้าตำหนักไปอย่างไม่แยแส

จือเฉากับแม่นมเติ้งรีบเข้ามาช่วยปัดฝุ่นบนร่างของนาง จือเฉามองนางด้วยสายตาชื่นชม "พระชายากล้าหาญยิ่งนักเจ้าค่ะ!"

ลั่วชิงยวนยิ้มขมขื่นพลางก้มมองร่างกายเช่นนี้ การที่นางคิดจะใช้วิชาตัวเบาคงเป็นเรื่องตลกยิ่งนักในสายตาของฟู่เฉินหวน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย