ในเวลานี้ ลั่วเยวี่ยอิงก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “หยุดพูดได้แล้ว”
นางมองไปที่ลั่วชิงยวนอีกครั้งแล้วพูดว่า “พี่หญิง อย่าได้ถือสาสิ่งที่พวกนางพูดเลยเจ้าค่ะ”
“หากพี่หญิงลดน้ำหนักได้เช่นนี้ ใบหน้านั่นก็ต้องหายได้ด้วยใช่หรือไม่?”
การถามถึงใบหน้าของลั่วชิงยวนอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ก็ดูคล้ายจงใจจะเน้นเรื่องใบหน้าอัปลักษณ์ของนางให้ผู้อื่นเอาไปเป็นประเด็น พลังการเย้ยหยันนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าคำพูดของผู้อื่นเลย
ลั่วอวิ๋นสี่ที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ก่อนหน้านี้นางเย้ยหยันลั่วชิงยวนว่าอ้วนพอ ๆ กับหมู แต่เมื่ออีกฝ่ายผอมลงแล้ว นางกลับล้อเลียนอีกฝ่ายเรื่องใบหน้าอันอัปลักษณ์แทน
เมื่อมองดูสีหน้าของคนที่กำลังชมการแสดงเหล่านั้น ความภาคภูมิใจซ่อนเร้นอยู่ในดวงตาของลั่วอวิ๋นสี่ ลั่วอวิ๋นสี่คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลั่วชิงยวนจะถอดหน้ากากของนางออกแล้วเผยใบหน้านั้นให้อีกฝ่ายได้เห็น
ทำให้พวกนางรู้สึกละอายใจและแสดงให้เห็นว่าพวกนางนั้นไร้สาระมากเพียงใด!
“ข้ามิได้ต้องการให้เจ้ามาสนใจหน้าข้า” ลั่วชิงยวนตอบลั่วเยวี่ยอิงอย่างเย็นชา
เมื่อนางเห็นท่าทีของลั่วเยวี่ยอิงเช่นนี้ นางก็รู้ทันทีว่าคำพูดของนางแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของลั่วชิงยวนแล้ว
หากใบหน้าของนางหายดีแล้วเหตุใดนางยังสวมหน้ากากอยู่เล่า?
ในเวลานี้เว่ยอวิ๋นเซี๋ยซึ่งอยู่ข้าง ๆ นางอดไม่ได้ที่จะซ่อนสีหน้าจึงพลันหัวเราะออกมาเบา ๆ “ใบหน้าท่านจะสามารถหายเป็นปกติได้จริงน่ะหรือ ข้าอยากรู้ว่าท่านเข้าหาลูกค้าได้เช่นไร ในเมื่อท่านเข้าไปที่หอนางโลมด้วยใบหน้านี้? พวกบุรุษเหล่านั้นมองเพียงรูปร่างมากกว่าใบหน้างั้นหรือ?”
หลังจากพูดอย่างนั้นเว่ยอวิ๋นเซี๋ยก็หัวเราะร่วมกับผู้คนมากมายที่อยู่รอบตัวนาง
ลั่วอวิ๋นสี่โกรธมากเมื่อได้ยินความอัปยศอดสูเช่นนี้ และอยากรุดก้าวไปข้างหน้าทันที
ทว่า ลั่วชิงยวนกลับคว้านางไว้ ก่อนจะเดินช้า ๆ ไปหาเว่ยอวิ๋นเซี๋ย
เมื่อรู้สึกถึงเจตนาร้าย เว่ยอวิ๋นเซี๋ยจึงลุกขึ้นยืนและยั่วยุมากยิ่งขึ้น “อะไรกัน? ข้ามิได้พูดกระไรผิดไปใช่หรือไม่ เหตุการณ์ที่ท่านเข้าไปในหอนางโลมโด่งดังไปทั่วทั้งเมือง ลองเดาดูสิว่ามีคนสงสัยเหมือนข้ากี่คนแล้ว?”
ดวงตาอันเยือกเย็นของลั่วชิงยวนส่องประกาย ทันใดนั้นนางก็คว้าคางของเว่ยอวิ๋นเซี๋ย ก่อนจะออกแรงบีบจนใบหน้าของเว่ยอวิ๋นเซี๋ยผิดรูป
น้ำเสียงของนางชัดเจน แต่กลับแฝงไปด้วยเจตนาสังหารอันรุนแรง “เจ้าอยากรู้ใช่หรือไม่? เช่นนั้นแล้วข้าจะพาเจ้าไปรับประสบการณ์ดี ๆ ที่หอฝูเสวี่ยเอง”
“ในฐานะเจ้าของหอฝูเสวี่ยแม้ว่าข้าจะร่ายรำอยู่ที่นั่น แต่ข้ายังมิเคยรับแขกเลย คำถามที่เจ้าถาม ข้าก็อยากรู้คำตอบเช่นกัน”
“ตัวเจ้าก็ดูอัปลักษณ์มาก ข้าน่าจะส่งเจ้าไปลองสัมผัสดู แล้วมาบอกคำตอบแก่ข้าในตอนที่เจ้ากลับมาก็คงได้”
เว่ยอวิ๋นเซี๋ยดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะผลักมือของลั่วชิงยวน แต่ก็ไม่อาจทำได้ นางพูดด้วยความโกรธว่า “ท่านกล้าดีเช่นไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...
คิดถึงอาเหลาอ่ะ... หายไปไหน2วันแล้วนะ...
สนุกมากค่ะ เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ ดำเนินเรื่องดี เป็นเรื่องแรกที่อ่านทุกตอนเลยค่ะ...