ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 68

ลั่วชิงยวนก้มลงและกำลังจะขึ้นรถม้า ได้ยินเสียงนี้ ก็พลันตัวแข็งทื่อ

เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นสายตาของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยความรังเกียจ สายตาที่เย็นชาของเขาคมราวกับกริช เต็มไปด้วยความดูถูกและความโกรธ

ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดมาก แอบกำมือแน่น มองฟู่เฉินหวนและไม่เอ่ยวาจาใด หันหลังกลับและลงจากรถม้า

ทันทีที่ลงจากรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งคนขับรถม้าว่า “ออกเดินทาง”

รถม้าบังคับออกไปอย่างเร็วจนเกือบจะชนลั่วชิงยวนล้ม ทำให้นางถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะทรงตัวให้มั่นคง

“พระชายาเจ้าคะ!” จือเฉาตื่นตระหนก

ลั่วชิงยวนยืนนิ่ง มองดูรถม้าลับตาไปจากสุดถนน พลันบริเวณรอบ ๆ ก็ว่างเปล่า

นางถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ชั่วครู่หนึ่งในใจก็ไม่รู้ว่ารู้สึกเช่นไร

ซูโหยวไปจัดรถม้าคันอื่นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เพียงแต่สั่งให้สารถีเข้าไปในวังหลวงเท่านั้น มิได้เอ่ยวาจาใดอีก จากนั้นก็เดินจากไป

มิได้พูดอันใดกับลั่วชิงยวนสักคำ ไม่แม้แต่จะมองนางอีก

จือเฉารู้สึกทั้งเสียใจและเป็นทุกข์ ช่วยประคองลั่วชิงยวนขึ้นรถม้า “แม้แต่ซูโหยวก็เปลี่ยนท่าที ทำไมพระชายาต้องผลัดผ้าเป็นอาภรณ์นี้เล่าเจ้าคะ ท่านอ๋องต้องมิพอพระทัยเป็นแน่เจ้าค่ะ”

ลั่วชิงยวนพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่นสิ ไปกันเถิด”

เมื่อชั่วครู่นางทำนายดวงชะตา ดาวหกแฉกบ่งบอกถึงเรื่องเพลิงไฟ เกรงว่าจะมีหายนะนองเลือด มิน่า ออกจากเรือนก็ลื่นจนเกือบจะล้ม พินิจไตร่ตรองจนรอบคอบแล้ว อาภรณ์เพลิงไสวนั้นมิได้เต็มไปด้วยเพลิงหรอกหรือ?

หายนะอาจเล็กหรือใหญ่ก็ได้ แต่นางยอมเสี่ยงที่จะขัดใจฟู่เฉินหวน และไม่อยากประสบกับหายนะนองเลือดในวังหลวง

ร่างกายของนางใช้เวลาพักฟื้นนานมาก แม้แต่นางก็มิอาจบอกได้ว่าตนหายดีแล้ว อีกทั้งยังต้องหาวิธีรักษาโรคอ้วนด้วย นางทนเจ็บต่อไปมิไหวอีกแล้ว!

ดังนั้นนางจึงเปลี่ยนอาภรณ์เพลิงไสวนั้นโดยด่วน แล้วใส่อาภรณ์เมฆสีทองที่ฟู่อวิ๋นโจวมอบให้แทน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย