นางเอ่ยถามออกไปทันที “สิ่งนี้เป็นฝีมือของลั่วหลางหลางฮูหยินตระกูลฟ่านใช่หรือไม่”
กลิ่นที่คุ้นเคยนี้เป็นกลิ่นของถุงหอมที่ลั่วหลางหลางเคยมอบให้นางจริงๆ!
ลูกจ้างหญิงก็สะดุ้งเล็กน้อยและตอบกลับอย่างรวดเร็ว "เป็นฮูหยินตระกูลฟ่านจริงเจ้าค่ะ แต่มิใช่ลั่วหลางหลาง เป็นเฉินซวนอี๋"
“นางปรุงแต่งมันด้วยตัวเอง”
ลั่วชิงยวนตัวแข็งทื่อ
เห็นได้ชัดว่านี่คือกลิ่นถุงหอมของลั่วหลางหลาง!
กลิ่นหอมนี้พิเศษมากจนเมื่อได้กลิ่นก็จะทำให้นึกถึงลั่วหลางหลางซึ่งตรงกับบุคลิกนิสัยของนางและมิใช่กลิ่นขี้ผึ้งธรรมดาอย่างแน่นอน
เฉินซวนอี๋จะรังสรรค์สิ่งเดียวกันออกมาได้อย่างไร!
นางขโมยสูตรของลั่วหลางหลางหรือ?
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ความโกรธของลั่วชิงยวนก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
เศรษฐินีเดินเข้ามาขนาบข้างนางแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้ายังมิได้ใช้สินค้าตัวใหม่ที่ฮูหยินฟ่านเตรียมไว้เลย เอามาให้ข้ากล่องหนึ่งด้วย"
“เจ้าค่ะ รอสักครู่หนาเจ้าคะ!”
ลูกจ้างหญิงจึงรีบไปเอากล่องใหม่มาทันที
สตรีผู้นั้นเปิดมันดมกลิ่นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ฮูหยินฟ่านทำเครื่องประทินผิวได้เก่งมาก นางเป็นสตรีที่มีความสามารถจริง ๆ!”
“นับว่าร้ายแรงจริง ๆ ที่นางต้องอยู่ในระดับเดียวกันกับสตรีชั้นต่ำเช่นนั้น มิรู้ว่าเมื่อใดฟ่านซานเหอจะหย่ากับลั่วหลางหลาง”
ลั่วชิงยวนดูบูดบึ้ง “นี่เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร! ลั่วหลางหลางเป็นถึงบุตรีแห่งจวนมหาราชครู และนางมีค่ามากกว่าฟ่านซานเหอเสียอีก! เฉินซวนอี๋จะทัดเทียมนางได้อย่างไร นางมีสิทธิ์งั้นหรือ”
ตั้งแต่สมัยโบราณ สถานะของขุนนางก็สูงกว่าพ่อค้าอยู่แล้ว ยังมิต้องพูดถึงเรื่องที่มหาราชครูลั่วได้รับความเคารพมากถึงขนาดองค์จักรพรรดิยังต้องเรียกเขาว่า “อาจารย์” อีกด้วย
ด้วยภูมิหลังครอบครัว อุปนิสัย ความสามารถ และการศึกษาของนาง เฉินซวนอี๋เทียบกับนางมิได้แม้แต่ปลายเล็บ!
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาฉางจิ่นเหวินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็มีสีหน้าน่าเกลียดและเย้ยหยัน “บุตรีจวนมหาราชครูรึ? จวนมหาราชครูทั้งตระกูลถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว จะมีจวนมหาราชครูเหลือที่ใดอีก?”
ในขณะที่นางพูดอย่างนั้น นางก็มองไปที่ลั่วชิงยวนตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความรังเกียจ "ไปมุดหัวอยู่ที่ใดมาหนอ ถึงได้คิดว่าลั่วหลางหลางเป็นฮูหยินตระกูลฟ่าน”
“สตรีที่ประพฤติมิถูกมิควรน่าจะถูกจับถ่วงน้ำไปเสีย! แค่ปล่อยให้นางอยู่ในตระกูลฟ่านต่อก็ถือว่าเมตตามากแล้ว โชคดีที่พี่หญิงซวนอี๋เป็นคนจิตใจอ่อนโยน หากเป็นข้าหนา ลั่วหลางหลางคงมิได้มีชีวิตอยู่ในใต้หล้านี้อีกต่อไปแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลั่วชิงยวนก็โกรธถึงขีดสุด นางยกมือขึ้นฟาดเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่าย
“หากยังกล้าพูดจาหยาบคายอีก ข้าจะตบปากเจ้าให้แตกเสีย!”
ฉางจิ่นเหวินถูกตบอย่างกะทันหัน ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความตกใจ นางชี้ไปที่ลั่วชิงยวนด้วยความโกรธ “เจ้ากล้าตีข้ารึ?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...
คิดถึงอาเหลาอ่ะ... หายไปไหน2วันแล้วนะ...
สนุกมากค่ะ เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ ดำเนินเรื่องดี เป็นเรื่องแรกที่อ่านทุกตอนเลยค่ะ...