เสียงที่ชัดเจนของลั่วชิงยวนดังขึ้น
ผู้คนมากกว่าหนึ่งโหลในห้องตกตะลึง และสายตาของพวกเขามองไปทางลั่วชิงยวนเป็นตาเดียว
“เสวี่ยชวนเฟิง เจ้ากล้าพาพระชายามาที่นี่ได้อย่างไร นี่เป็นเรื่องภายในสมาคมของเรา เจ้ารนหาที่ตาย!”
เฉินซวนอี๋พูดอย่างเย็นชา “ใช่ นี่เป็นความลับของสมาคมจะให้ใครอื่นมาได้ยินได้เยี่ยงไร เสวี่ยชวนเฟิงเจ้ามิเข้าใจกฎเหล่านี้หรือ?”
ผู้อาวุโสยังดุด้วยใบหน้าเย็นชา “ชวนเฟิง เจ้ากำลังทำอะไร!”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากเจ้าพาคนนอกเข้ามาและเปิดเผยความลับของสมาคม เจ้าจะถูกลงโทษโบยร้อยไม้และถูกขับออกจากสมาคม! เจ้าทำร้ายตระกูลเสวี่ยของเราแท้ ๆ!”
คนที่พูดน่าจะเป็นบิดาของเสวี่ยชวนเฟิง
แต่น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการตำหนิ ไม่เหมือนบิดาผู้ให้กำเนิด
เสวี่ยชวนเฟิงก็ดูอึดอัดเช่นกัน เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แม่นางฝูเสวี่ยต้องการซื้อกิจการ หากนางซื้อกิจการเหล่านี้ นางก็จะกลายเป็นคนของสมาคมการค้าเฟิงตู นางมิใช่คนนอกเสียหน่อย! นี่มิถือว่าเป็นการทำความลับรั่วไหล!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตระหนักได้ทันทีว่านี่คือแผนลวง
“ใช่ เมื่อข้าใช้เงินเพื่อซื้อกิจการและเข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตู ดังนั้นข้าจึงมิใช่คนนอกอีกต่อไป!”
ฉางจิ่นเหวินเยาะเย้ย “ท่านพูดว่าจะซื้อก็ซื้อได้หรือ? ข้ายังมิได้ตกลงเลย! กิจการนี้เป็นเรื่องระหว่างข้ากับเฉินซวนอี๋ มิใช่เรื่องที่ท่านจะมาแย่ง”
ลั่วชิงยวนเดินไปข้างหน้าและนั่งลงสบาย ๆ เอนตัวลงบนเก้าอี้อย่างเกียจคร้านแล้วพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
"เจ้ามิได้บอกว่าคนที่ให้ราคาสูงที่สุดจะได้มันไปเช่นนั้นรึ?”
“ข้าได้ยินกับหูของข้าเอง”
ฉางจิ่นเหวินดูโกรธเล็กน้อยและกัดฟัน “เช่นนั้นข้าจะจ่ายสี่หมื่นตำลึง!”
ลั่วชิงยวนลังเล
ราคานี้มิใช่น้อย ๆ เลย!
ในเวลานี้ ฉางจิ่นเหวินยิ้มเย้ยหยัน “หากไม่มีปัญญาซื้อ เหตุใดจะต้องพูดจาใหญ่โตให้ยุ่งยากด้วย”
“อีกอย่าง เสวี่ยชวนเฟิงมิควรถูกลากลงมาทุบตีเป็นร้อยครั้งหรอกหรือ มิเช่นนั้นต่อไปมิว่าใครก็คงสามารถนำคนนอกเข้ามาได้ เราคงวุ่นวายไปหมด?”
เฉินซวนอี๋เองก้เห็นด้วยว่า “หากกฎมิเป็นไปตามกฎ ย่อมต้องวุ่นวายเป็นแน่”
เสวี่ยชวนเฟิงมองไปที่ชายวัยกลางคนบนเก้าอี้ราวกับขอความช่วยเหลือและตะโกน “ท่านพ่อ…”
แต่บิดาของเขาก็มิช่วย ได้แต่พูดอย่างหมดหนทาง “กฎนี้มิอาจฝ่าฝืนได้! ในเมื่อเจ้าจงใจทำลายกฎ เจ้าก็จะทำได้เพียง... “
“ถูกโบยเสีย”
ทันใดนั้นมีอันธพาลสองคนเข้ามาผลักเสวี่ยชวนเฟิงลงไปที่พื้นและพยายามโบยเขาอย่างแรง
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายนางก็ทนมิไหวอีกต่อไป และหยุดพวกเขาทันที “หยุด!”
“ข้ามิได้บอกว่ามิซื้อ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...