“หัวหน้าหมอหลวงมู่ ใบเทียบยาทั้งสองนี้มาจากสำนักหมอหลวงของท่านหรือไม่?”
หัวหน้าหมอหลวงมู่มองดูและพยักหน้า “มันเป็นใบเทียบยาที่สำนักหมอหลวงจัดทำขึ้น แต่นี่ดูมิเหมือนกับใบเทียบยาที่ออกตอนตรวจรักษา น่าจะเป็นใบเทียบยาที่ออกในระหว่างการทดสอบตามปกติของสำนักหมอหลวง”
“เช่นนั้น หัวหน้าสำนักหมอหลวงมู่จำลายมือในใบเทียบยานี้ได้หรือไม่?”
หัวหน้าสำนักหมอหลวงมู่ตอบอย่างมิลังเลแม้แต่น้อยว่า "นี่น่าจะเป็นลายมือของเซิ่งไป่ชวน"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง
“เป็นเขาหรือ?”
หัวหน้าสำนักหมอหลวงมู่สับสนมาก "พระชายา ท่านถามเรื่องนี้ด้วยเหตุใด? อีกทั้งใบเทียบยาที่ใช้ในการทดสอบเหล่านี้ก็ควรถูกเก็บไว้ในสำนักหมอหลวง เหตุใดจึงมาอยู่กับท่าน?"
“เซิ่งไป่ชวนมิได้ก่อเรื่องอะไรมิดีใช่หรือไม่?”
มู่หรูไห่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
ลั่วชิงยวนเปลี่ยนหัวข้อและถามว่า "ผู้ดูแลสำนักหมอหลวง ข้าขอถามสักคำ ท่านจัดการเจิ้งหวู่เหลียงแห่งสำนักหมอหลวงแล้วหรือยัง?"
มู่หรูไห่มีสีหน้าเคร่งขรึม “มิต้องห่วง ข้าจะจะจัดการเอง แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป
ลั่วชิงยวนพยักหน้า แล้วนางก็พูดถึงใบเทียบยา นางถามอย่างสงสัย "ผู้ดูแลสำนักหมอหลวง เซิ่งไป่ชวนบอกว่า เขาอยู่ในสำนักหมอหลวงมาตั้งแต่เด็ก และท่านเป็นคนรับเขามาเลี้ยงใช่หรือไม่"
“ใช่ เขาอาศัยอยู่ที่สำนักหมอหลวงมาหลายปีแล้ว”
“แล้วเหตุใดทุกวันนี้เขาถึงยังมิได้เป็นหมอหลวงเต็มตัวอีกเล่า? เขาแทบจะมิได้ตรวจรักษาเลย ท่านจงใจซ่อนเขาไว้หรือ?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของมู่หรูไห่ก็เปลี่ยนไป
ถอนหายใจ "มิใช่ว่าข้าตั้งใจจะบีบคั้นเขา เพียงแต่ว่า เขา... มิใช่คนจากนอกวัง และข้าก็มิรู้ว่าเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่ข้ามิอยากสร้างปัญหา ข้าก็เลยพยายามป้องกันมิให้เขาปรากฏตัวให้มากที่สุด”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!
ในที่สุดลั่วชิงยวนก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดเซิ่งไป่ชวนซึ่งเรียนแพทย์ในสำนักหมอหลวงมาตั้งแต่เด็กจึงมีสถานะต่ำเช่นนี้
มิเพียงแต่ถูกเจิ้งหวู่เหลียงบีบคั้นเท่านั้น แต่ยังผนวกกับความเห็นแก่ตัวของหัวหน้าหมอหลวงมู่ด้วย
นางนึกถึงเสื้อผ้าเด็กที่นางพบในที่พักของขันทีหลิว นางจึงหยิบจี้หยกครึ่งชิ้นออกมา
“หัวหน้าสำนักหมอหลวงเคยเห็นจี้หยกนี้อีกครึ่งหนึ่งหรือไม่?”
ทันทีที่เขาเห็นจี้หยก สีหน้าของมู่หรูไห่ก็เปลี่ยนไปทันที
"นี่มัน!"
เขารีบรับจี้หยกไปตรวจสอบอย่างละเอียด
เขาพูดด้วยความตื่นเต้น "ตอนที่ข้าเก็บเซิ่งไป่ชวนมาเมื่อหลายปีก่อน เขามีจี้หยกอีกครึ่งหนึ่งติดตัวมา!"
“นี่พบมาจากที่ใด? ท่านสืบหาต้นกำเนิดของเซิ่งไป่ชวนได้แล้วหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
สนุกมาก...
พระเอกก็โง่ นางเอกก็งี้เง่าไม่สมเหตุสมผลอะไรสักอย่าง ตอนแรกก็อวยยศเป็นถึงปรมาจารย์ แต่สกิลอ่อนด๋อยมาก เสียเวลาอ่านจริงๆ จะครึ่งเรื่องละยังไม่มีสาระอะไรเลย...
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...