ไม่ว่าไทเฮาจะถามอะไร นางสนมเจียล้วนตอบทั้งหมด
“หม่อมฉันให้คนไปสืบที่วิหารบรรพบุรุษมา กลับไม่พบแม้แต่เงาของฮองเฮา หม่อมฉันจึงได้ข้อสรุปว่าเกิดเรื่องขึ้นกับฮองเฮาเพคะ”
สีหน้าไทเฮาเคร่งขรึมขึ้น
“นางสนมเจีย เจ้ารู้หรือไม่ว่าการพูดเหลวไหล แต่งเรื่องโกหก จะต้องถูกลงโทษสถานหนัก ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง เจ้ากล้ารับประกันหรือไม่ว่าฮองเฮาไม่อยู่ที่วิหารบรรพบุรุษ?”
นางสนมเจียพยักหน้า
“เป็นเรื่องจริงเพคะไทเฮา! หม่อมฉันกล้าใช้ชีวิตรับประกันเพคะ”
ไทเฮายังคงรู้สึกกังขาในเรื่องนี้
นี่ช่างแปลกเสียจริง
หากฮองเฮาไม่อยู่ที่วิหารบรรพบุรุษ เช่นนั้นช่วงที่ผ่านมานางไปที่ไหนกัน?
เรื่องของฮ่องเต้ นางย่อมไม่อาจสืบเสาะได้
ทว่านางไม่จำเป็นต้องหาเรื่องทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก
นางสั่งนางสนมเจียว่า
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้าหรอกนะ
“ทว่าเท่าที่ข้าสืบความมาได้ ฮองเฮาไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายอะไร นางใกล้จะกลับมาแล้ว หากเจ้าอยากไขข้อสงสัยให้กระจ่างก็ไปถามนางเป็นการส่วนตัวได้”
นางสนมเจียแสดงสีหน้าดีอกดีใจ
“จริงหรือเพคะ!”
ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฮองเฮาก็ดีแล้ว!
ไทเฮากำชับอย่างเป็นห่วง
“หากครั้งต่อไปมีเรื่องอะไรก็รีบมาหาข้า”
“เพคะ ไทเฮา!”
วันที่สิบแปด เดือนสิบสอง
คณะเดินทางของเซียวอวี้เดินทางมาถึงเมืองอี้ที่อยู่ติดกับเมืองหลวงเพื่อหาที่พักค้างแรม
ตลอดทางมานี้เซียวอวี้และเฟิ่งจิ่วเหยียนแยกห้องนอนกันมาตลอด
ทว่าที่พักแห่งนี้มีห้องน้อยมาก
ทั้งสองคนจึงถูกจัดให้อยู่ห้องเดียวกัน
องครักษ์หลายคนทำได้เพียงอัดกันอยู่ในห้องเก็บฟืนหนึ่งห้อง
เหมันตฤดูนั้นหนาวเหน็บ เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็ไม่อยากให้ตัวเองต้องลำบากนอนที่พื้น
โชคดีที่มีฟูกนอนมากเพียงพอ สองคนจึงแยกกันนอนคนละฟูกบนเตียงเดียวเหมือนยามที่อยู่เมืองอวิ๋นก่อนหน้านี้ โดยเนื้อตัวไม่ต้องสัมผัสกัน
โรงเตี๊ยมนี้ไม่พร้อมพรั่งเท่าใดนัก ไม่มีตัวยาไส้เดือนดิน ไม่มีเตียงเตา
ข้างเตียงมีเตาผิงอยู่เตาหนึ่ง ทว่ากลับไม่เพียงพอที่จะทำให้ทั่วทั้งห้องอบอุ่นได้
เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นคนที่มีร่างกายธาตุเย็น นางเพิ่มผ้านวมให้ตัวเองอีกหนึ่งผืน
ทว่ายังคงรู้สึกหนาวเหน็บ
เหมันตฤดูของทางใต้อากาศหนาวชื้น จนทำให้ผ้านวมชื้นไปด้วย
มือเท้าของนางเย็นเป็นน้ำแข็ง ไม่ว่าจะทำอย่างไรร่างกายก็ไม่อบอุ่นขึ้นเลย
นางนอนขดตัวตะแคงข้าง อยากจะเอาศีรษะมุดเข้าไปในผ้านวมด้วยใจจะขาด
ตั้งแต่เด็กจนโต นางแทบไม่เคยใช้ชีวิตผ่านช่วงหน้าหนาวในพื้นที่ทางใต้มาก่อน
โดยเฉพาะการอยู่ในที่พักที่โกโรโกโสถึงเพียงนี้
นางนอนหลับไม่ลงจริง ๆ
ศีรษะถูกความชื้นทำเอาเปียกไปหมด ร่างกายสั่นเทาไปทั้งร่าง ฟันกระทบกันอย่างควบคุมไม่อยู่
เหตุใดจึงหนาวถึงเพียงนี้?!
ยามที่นางกำลังจะหลับไปด้วยความหนาวเหน็บอย่างที่สุดนี้เอง มือข้างนึงก็สอดเข้ามาในผ้านวมของนาง
นางตื่นตัวทันที
ทว่าไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่มันเริ่มไปเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้
หรือบางที เขาอาจจะแค่ไล่ตามความปรารถนาในเนื้อหนังมังสาก็เท่านั้น...
ให้เขาคิดเพ้อถึงริมฝีปากของนาง แม้กระทั่งอะไรที่มากกว่านั้น
ก็อย่างเช่นตอนนี้ ที่เขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ คิดอยากจะเห็นสีหน้าของนางเปลี่ยนจากนิ่งสงบเป็นลุ่มหลงในตัวเขา
เขาอยากใกล้ชิดกับนาง อยากจะรังแกนาง
......
ยามที่เฟิ่งจิ่วเหยียนตื่นขึ้น ก็เห็นเซียวอวี้ที่ล้างหน้าบ้วนปากเรียบร้อยแล้วนั่งอยู่ข้างโต๊ะ กำลังจดจ่ออยู่กับการอ่านจดหมาย
เมื่อนางลุกขึ้นนั่ง เส้นผมที่ดำขลับอ่อนนุ่มก็พลิ้วตกลงมาบนหัวไหล่ ผ่านไปครู่หนึ่งนางถึงได้สติกลับมา
เมื่อคืนวานดูเหมือนนางจะนอนหลับสบายไม่เลวเลย
เซียวอวี้หันมามองนาง แววตาเย็นชาดังเดิม
“ในเมื่อตื่นแล้วก็ล้างหน้าบ้วนปากให้เรียบร้อย จะได้เดินทางต่อ”
“เพคะ”
ยามที่ออกจากห้อง นางบังเอิญพบกับคนงานของโรงเตี๊ยมเข้า
เขาถามด้วยความเป็นห่วงว่า
“คุณชาย ร่างกายท่านเป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ?”
เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
จากนั้นก็ได้ยินคนงานผู้นั้นพูดว่า “อาบน้ำด้วยน้ำเย็นตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้ ร่างกายจะทนไหวได้อย่างไรขอรับ!”
ระหว่างที่พูดยังมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยสายตาที่มีความหมายลึกซึ้งอีกด้วย
----------------------------------------------
[1] ประเพณีที่ปฏิบัติในงานสมรสสมัยโบราณ มีความหมายถึงการครองคู่กันตลอดไป

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...