เธอล้มลงกับพื้นอย่างแรง ใช้มือข้างหนึ่งค้ำกับบนพื้นไว้ และอีกมือหนึ่งกดหน้าท้องส่วนล่างของเธอ สีหน้าแสดงถึงความเจ็บปวด
ขณะที่เธอหลับตาน้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเธอ และจากนั้น ก็ราวกับเปิดวาล์วน้ำ น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย
“ท่านแม่!” ไป๋ชงเซิงวิ่งออกมาจากห้องโถง และพุ่งเข้าไปหาเธอ
อวี่อันพยุงไทเฮา ไทเฮาร้องออกมาด้วยความปวดใจ “เจ้าเสวี่ย”
นอกจากนี้ยังมีคนรับใช้ในห้องโถง ขุนนางและจักรพรรดิเหยา ต่างก็วิ่งออกไปจากตำหนักเฉียนชิงเนื่องจากท่าทีของไป๋ชิงหลิง
สายตาของทุกคน จับจ้องไปที่ร่างของไป๋ชิงหลิง และได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของเธอ ทำให้ตกอยู่ในบรรยากาศที่ซึมเศร้า
หรงเยี่ยปล่อยรถเข็นทิ้ง วิ่งออกมาจากตำหนักเฉียนชิงเป็นคนแรก คุกเข่าข้างหนึ่งลงข้างๆไป๋ชิงหลิง มือข้างหนึ่งวางลงบนบ่าของไป๋ชิงหลิง และพูดว่า “ตามหมอหลวง”
เธอล้มลงในอ้อมแขนของหรงเยี่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง ราวกับตายไปพร้อมกับหรงจิ่งหลินแล้ว ดวงตาของเธอทั้งสองข้างดูว่างเปล่า
เธอยิ้มทั้งน้ำตา จากนั้นก็ค่อยๆหลับตาลง และสลบไป
คราวนี้ ไป๋ชิงหลิงแท้งลูก ไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กที่อยู่ในท้องได้
หมอหญิงที่เข้าไปเดินออกมาด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว คุกเข่าลงต่อหน้า จักรพรรดิเหยา ไทเฮาและหรงเยี่ย และพูดว่า จักรพรรดิ พระชายาท่านอ๋องหรง เด็กในท้องของพระชายาไม่สามารถคลอดออกมาได้ และนางก็เสียเลือดมาก
สีหน้าหรงเยี่ยหมองลง และพูดว่า ให้อีผิงถิงกับลี่ว์อีและไป๋หมิงฮุ่ยเข้าวัง
จักรพรรดิเหยาหน้าคร่ำเครียด และดุว่า “ในฐานะหมอหญิงของวังหลวง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ไม่สามารถทำได้ ทหาร ลากตัวนางออกไป”
ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำ หรงเยี่ยจับที่เท้าแขนของรถเข็นไว้แน่น ดวงตาของเขามืดมนและน่ากลัว “สมปรารถนาท่านแล้วสิ ลูกของข้าถูกท่านบีบบังคับจนตาย อีกคนยังไม่ทันได้เกิดมาก็ตายอยู่ในครรภ์ ผู้หญิงของข้าก็ไม่ต่างจากคนตาย ถ้านางตาย ข้าก็จะตายตาม ท่านพอใจแล้วใช่ไหม?”
“หรงเยี่ย!” จักรพรรดิเหยาหันกลับมา และตะคอกอย่างเย็นชา
ไทเฮาตะโกนด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวังว่า “พอแล้ว!”
เธอมองดูสองพ่อลูก ด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง “ยังวุ่นวายไม่พอหรือ เจ้าเสวี่ยอยู่ข้างในไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง ออกไปทะเลาะกันข้างนอก ออกไปฆ่ากันข้างนอก ข้าจะไม่สนใจพวกเจ้าแล้ว”
จักรพรรดิเหยาถูกขัดโดยคำพูดของไทเฮา
หรงเยี่ยทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ และหมดความอดทนกับพ่อของเขาตั้งนานแล้ว
เขาเงยหน้าขึ้น มองไป๋ชงเซิงที่ยืนอยู่ด้านหลังไทเฮา ยื่นมือออกไปกวักเรียก
ไป๋ชงเซิงรีบวิ่งพ่งเข้าไป และคลานอยู่แทบเท้าของหรงเยี่ย และเรียกเบาๆว่า “ท่านพ่อ.......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...