ขุนนางทุกคนแอบสูดหายใจเข้าลึก ๆ
ถ้าขาไม่หายแสดงว่าองค์รัชทายาทไม่สามารถยืนได้
ดวงตาของจักรพรรดิเหยาค่อยๆหลุบลงและคำว่า"การรักษาที่ล่าช้า"ยังคงก้องอยู่ในหัวของเขา
เขายิ่งไม่พอใจหลานเฉินเฟิงมากขึ้น นี่คือคนที่เขาสนับสนุนขึ้นมาเองกับมือ แต่วันนี้เขากลับถูกความจริงตบหน้า
หรงจิ่งหลินถูกพระชายาองค์รัชทายาททำร้ายจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ฟื้น องค์รัชทายาทก็ได้รับการรักษาที่ล่าช้าเนื่องจากความประมาทของพระชายาองค์รัชทายาทอีก ไอ่หลานเฉินเฟิงมันสมควรตาย มันทำให้เขาเจ็บปวดจริงๆ
เสียงร้องของไป๋ชิงหลิงดังมาจากข้างในอีกครั้ง"ออกไป ข้าจะไม่กินยา ข้าไม่เอาแล้ว ข้าไม่เอาอะไรทั้งนั้น ออกไป ออกไปให้หมด!"
"นางสนมไป๋ ท่านต้องดื่มยาเพื่อรักษาทารกในครรภ์....."
"แพร้ง!"เสียงชามแตกตามมา
หรงเยี่ยเหลือบมองที่ประตูแล้วพูดว่า"เสด็จพ่อ ลูกขอเข้าไปดูก่อน"
"รีบไปเถอะ ไปขอให้นางกินยาดีๆ นี่เป็นฎีกาจากข้า"ใบหน้าของจักรพรรดิเหยาหลุบลงอย่างน่ากลัว เขาพยายามระงับความโกรธที่ส่งผ่านสายตาของเขา แต่อย่างไรก็ตาม ความโกรธนี้เกิดขึ้นจากหลานเฉินเฟิงและหลานวานเอ๋อร์
เขาคิดว่าเขามีวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องของเมืองชีแล้ว
หลังจากที่หรงเยี่ยเดินเข้าไปในห้องจักรพรรดิเหยาก็ตอบกลับสิ่งที่ฮองเฮาเต๋อพูด"ฮองเฮาตัดสินใจเองเถิด เรื่องของจิ่งหลินไม่ต้องถามข้าหรอก"
"หม่อมฉันขอขอบคุณจักรพรรดิแทนนางสนมไป๋"
"ท่านอยู่เฝ้านางที่นี่ก่อน ข้าจะกลับตำหนักเฉียนชิงไปจัดการเรื่องของหลานเฉินเฟิงก่อน"
หลังจากพูดจบจักรพรรดิเหยาก็รีบเดินออกจากศาลาชิงหลิงโดยเอามือไพล่หลัง
ทางนั้นหลังจากที่หรงเยี่ยถูกเข็นเข้าไปในห้องแล้ว หมอหลวงที่อยู่ข้างในต่างก็พากันยืนแข็งทื่อและทำความเคารพเขา
หรงเยี่ยไม่ได้ขยับไปข้างหน้าต่อไป ดวงตาสีเข้มของเขากวาดไปทั่วยาและชามแตกที่ไป๋ชิงหลิงเขวี้ยงลงกับพื้น นิ้วของเขาบนที่วางแขนค่อยๆกำที่วางแขนไว้แน่น
ชั่วครู่ต่อมา เขาก็ยกมือขึ้น โบกมือกลับแล้วพูดว่ร"ไปเตรียมยามา"
เมื่อหมอหลวงกำลังจะตอบกลับ หรงเยี่ยก็เปิดปากพูดอีกครั้ง"ชามหนึ่งเป็นยารักษาทารกในครรภ์ อีกชามหนึ่งเป็นยาทำแท้ง"
อะไรนะ! !
หมอหลวงทุกคนในห้องก็พากันตกใจ
องค์รัชทายาท ท่านมาที่นี่เพื่อโน้มน้าวนางไม่ใช่หรือขอรับ?"
"ลงไปเตรียมเถิด"หรงเยี่ยพูดอีกครั้ง
หมอหลวงทุกคนก็กลับมามีสติแล้วจึงรีบอพยพออกจากห้องไป หมอหลวงคนสุดท้ายที่ออกไปก็ปิดประตูเอง
ไป๋ชิงหลิงที่นั่งอยู่บนเตียง เหลือบมองเขา จากนั้นจึงเอนตัวลงบนเตียง โดยหันหลังให้กับหรงเยี่ยและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา"เจ้าก็ออกไปด้วย"
"ฮองเฮาฟังอยู่ข้างนอก จะแสดงก็ต้องแสดงให้สุด!"สายตาของหรงเยี่ยเย็นชา สีหน้าของเขาไม่แสดงความรู้สึกอะไร
ไป๋ชิงหลิงรู้ว่าไม่สามารถปิดบังเขาเรื่องนี้ได้ ทหารองค์รักษ์เหยี่ยวดำที่เขาส่งให้นางนั้นภักดีต่อเขามากที่สุด ไม่เหมือนกับอิงเหลียน ที่ถูกนางทำให้เชื่อง
ดังนั้นทุกการเคลื่อนไหวของนางจึงอยู่ใต้จมูกของเขาแล้ว
ตราบใดที่เขาอยากรู้ว่านางกำลังทำอะไรอยู่ แค่เขายักคิ้วเขาก็สามารถรับรู้ข้อมูลได้ทุกอย่าง
"พอเจอข้า ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วหรือ?"หรงเยี่ยถามกลับ
หน้าอกของไป๋ชิงหลิงรู้สึกแน่น และนางก็หันไปมองเขา
หรงเยี่ยขยับรถเข็นของเขาและเข้ามาอย่างช้าๆ
นางลุกขึ้นนั่งและมองออกไปนอกหน้าต่าง"ทำไมคุณถึงต้องเปลี่ยนอิงเหลียนเป็นคนอื่น?"
"นางปกป้องเจ้าให้ดีไม่ได้ ถูกหยางสวี่อี้เอาตัวไป นางและทหารองค์รักษ์เหยี่ยวดำที่ติดตามเจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ต่อแล้ว"
ไป๋ชิงหลิงกำหมัดแน่นและถามอย่างกัดฟัน"นี่เจ้าสนใจเรื่องที่ข้าอยู่กับหยางสวี่อี้หรือเจ้าคิดว่าพวกเขาไม่มีคุณมบัติที่จะอยู่ต่อจริงๆกันแน่ สรุปแล้วเจ้าต้องการอะไร!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...