ทันใดนั้นไรอันก็เอื้อมมือไปจับมือเธอไว้ แต่เมเดลีนก็สะบัดมือเขาออกโดยสัญชาตญาณ
เมื่อสังเกตเห็นว่าไรอันมองมาอย่างอึ้ง ๆ เมเดลีนก็ตระหนักได้ว่าการตอบสนองของเธอดูจะเกินจริงไปหน่อย “โทษทีค่ะ ไรย์” เธอบอก
“ไม่เป็นไร ผมคงทำตัวบุ่มบ่ามไปหน่อย” ไรอันพูดในขณะที่พยุงตัวขึ้นด้วยแขน เขายืนขึ้นอย่างพยายาม
“ผมรู้ว่ามันยากสำหรับคุณที่จะยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ผมรู้ว่าผู้ชายคนเดียวที่คุณรักคือเจเรมี่ วิทแมน เรื่องนี้จะเป็นความลับระหว่างเราสองคน ผมจะไม่พูดเรื่องนี้กับใคร” เขาบอกกับเธอ
เมเดลีนเข้าใจความหมายและรู้ว่าเขาเป็นคนดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะบอกตัวเองว่าเป็นอย่างอื่น
คนอื่นไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ แต่ไม่มีทางที่เธอจะก้าวข้ามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเองไปได้
เธอไม่พูดอะไร เพียงแต่พยักหน้าแล้วจากไป
เมเดลีนกลับไปที่คฤหาสน์วิทแมนโดยเร็ว แต่เจเรมี่ไม่ได้อยู่ที่นั่น ดังนั้นเธอจึงไปอาบน้ำ
เธอรู้ดีว่าเหตุการณ์นี้ไม่ง่ายขนาดนั้น
ต้องมีคนวางแผนร้ายใส่ไรอันกับเธอแน่ ๆ
ไม่อย่างนั้นเธอจะหมดสติทันทีแบบนั้นได้ยังไง?
มีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเธอและไรอัน ในตอนที่หมดสติจริงหรือเปล่า?
เมเดลีนคิดจนหัวจะแตก แต่ก็ยังจำอะไรไม่ได้
หลังจากอาบน้ำอยู่ครึ่งชั่วโมง เมเดลีนก็ออกมา ซึ่งเป็นเวลาที่เจเรมี่กลับมาพอดี ชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างเตียงและกำลังพลิกดูแฟ้มเอกสาร
เมเดลีนเช็ดผมให้แห้งด้วยผ้าขนหนู ตอนนี้เธอค่อนข้างรู้สึกผิดจนไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา
“ทำไมคุณถึงอาบน้ำตอนนี้ล่ะ?” เจเรมี่ถามพลางวางเอกสารในมือลงและคว้าไดร์เป่าผมขึ้นมาเมื่อเห็นเธอออกมาจากห้องน้ำ
“ฉันเหงื่อออกนิดหน่อยแล้วรู้สึกไม่สบายตัวน่ะค่ะ ก็เลยเข้าไปอาบน้ำ” เธอตอบพร้อมแก้ตัว เพียงพูดไปแค่นี้เธอก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันที
เธอไม่ต้องการที่จะโกหกเขา แต่เธอก็ไม่กล้าบอกความจริงเช่นกัน
เจเรมี่ไม่สงสัยเธอเลย เขาจับมือเธอและนั่งลงบเตียงข้าง ๆ เธอ จากนั้นก็ยกไดร์เป่าผมให้เธอจนแห้ง
การกระทำของเขาอ่อนโยน ยิ่งรู้สึกว่าเขาทะนุถนอมเธอมากเพียงใด ก็ยิ่งทำให้เมเดลีนรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม
ใครกันที่อยากวางแผนร้ายใส่ไรอันกับเธอ?
เช้าวันจันทร์เมเดลีนไปส่งลูก ๆ ที่โรงเรียนด้วยตัวเอง เนื่องจากคนขับรถไม่ว่าง ขณะที่ขับรถผ่านวิทแมน คอร์ปอเรชั่นเธอก็อยากจะเข้าไปหาเจเรมี่
แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดูค่อนข้างอึดอัดสำหรับคนภายนอก แต่เธอก็ยังต้องการพบเขา
เมเดลีนขึ้นลิฟต์มาจากชั้นใต้ดิน ขณะที่เดินออกมาจากลิฟต์ เธอก็เห็นพนักงานต้อนรับซึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการจัดแฟ้มเอกสาร เธอสังเกตเห็นพัสดุอยู่ข้าง ๆ จึงหยิบมันขึ้นมาและเห็นว่าเป็นของเจเรมี่
“ฉันมาหาคุณวิทแมน เดี๋ยวฉันเอามันไปให้เขาเอง คุณทำงานต่อเถอะ” เธอเอ่ย
เมื่อเห็นว่าเป็นเมเดลีนพนักงานต้อนรับก็ถึงกับมึนงงไป แต่เธอก็รีบตอบกลับหลังจากอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง “ขะ... ขอบคุณค่ะ คุณมอนต์โกเมอรี”
เมเดลีนส่งยิ้มแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานของเจเรมี่
เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าทันทีที่เขาเห็นเมเดลีน
เธอไม่อยากจะรบกวนเขาระหว่างโทรศัพท์ เธอจึงเดินไปเทน้ำใส่แก้วให้ตัวเองแล้ววางพัสดุไว้บนโต๊ะของเขา
หลังจากที่เดินกลับมา เธอก็สังเกตเห็นเจเรมี่ยืนอยู่หน้าโต๊ะของตัวเอง ในมือของเขาถือรูปถ่ายเป็นปึกและกำลังไล่ดูทีละรูป สีหน้าของเขาเย็นชาขึ้นทุกครั้งที่มองรายละเอียดในแต่ละภาพ
“เจเรมี่ กำลังดูอะไรอยู่คะ? ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น” เธอถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...