แววตาของไรอันอ่อนโยนไม่ได้มีความร้ายกาจอย่างในตอนแรกอีก
ทว่าเมเดลีนก็ยังรู้สึกกลัวอยู่เล็กน้อย “คุณต้องการอะไร?”
ไรอันชำเลืองมองบาดแผลที่มีผ้าพันแผลพันไว้บนไหล่ของเขา แล้วยื่นมือออกไปจับมือของเมเดลีน ทว่าผลลัพธ์ก็เป็นไปอย่างที่เขาคิด
เมเดลีนปัดมือเขาออกทันที “ทำบ้าอะไร?” เธอโพล่งถามตรง ๆ
ไรอันยิ้มเศร้า “เดี๋ยวคุณก็รู้”
พูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนงช้า ๆ เขาจ้องมองแววตาที่สงสัยและไม่สบายใจของเมเดลีน แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ถ้าคุณทำตามเงื่อนไขที่ผมบอกได้ ผมจะส่งคุณกลับไปหาเจเรมี่เอง”
เมเดลีนเบิกตากว้าง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เขาบอก แต่เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่มีทางเลือกอื่น
…
เมื่อรถแท็กซี่ขับเลยทางแยกมา เจเรมี่ก็มองไม่เห็นรถคันที่ไรอันลักพาตัวเมเดลีนไป
แต่หลังจากขอดูกล้องวงจรปิดไปเรื่อย ๆ สุดท้ายเขาก็พบเข้ากับบ้านที่ทรุดโทรมหลังหนึ่ง
ทันทีที่เข้ามาเจเรมี่กลับไม่พบใครเลย
เขาเรียกชื่อเมเดลีนซ้ำ ๆ อย่างมีหวัง “ลินนี่ คุณอยู่ที่นี่หรือเปล่า? ลินนี่?”
ชายหนุ่มยังคงตั้งตารอฟังเสียงตอบจากเธอ แต่ก็ได้กลับมาเพียงความเงียบงัน
เจเรมี่พยายามหาเบาะแสอื่น ๆ เพิ่มเติม ก่อนจะพบกับชุดปฐมพยาบาล สำลีก้านที่ใช้แล้ว และผ้าพันแผลเปื้อนเลือดวางอยู่บนโต๊ะกาแฟ
ตอนนี้เขายิ่งแน่ใจมากขึ้นว่าที่นี่คือแหล่งกบดานของไรอัน โจนส์ แต่เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ไรอันพาตัวเมเดลีนไปไว้ที่ไหน
เขากลับไปที่รถและพิงศีรษะลงกับเบาะด้วยความหดหู่ใจ
“เมื่อเช้านี้เอวลีนไม่ได้ออกไปด้วยกันกับคุณหรอกเหรอ? ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? เอลลี่คิดถึงเธอมาก”
เมื่อนึกถึงคำพูดของฌอนในตอนที่อยู่บนเครื่องบิน เจเรมี่ก็รู้สึกกังวลใจอย่างช่วยไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องตอบอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา “ไรอันพาตัวเอวลีนไปแล้วครับ”
“ว่าไงนะ?” สีหน้าของฌอนเปลี่ยนไป “เกิดอะไรขึ้น? ไรอันจะเอาตัวเอวลีนไปอีกได้ยังไง? เจเรมี่คุณสัญญากับผมแล้วนี่ว่า จะดูแลเอวลีนให้ดีที่สุด แล้วปล่อยให้เธอถูกสารเลวนั่นจับไปทั้ง ๆ ที่อยู่กับคุณได้ยังไง?”
ฌอนตะโกนออกมาด้วยโทสะ เขาไม่สามารถสงบลงได้อีกเพราะความกังวล
“ไรอันมันบ้าไปแล้ว มันจะทำอะไรก็ได้! ถ้าเอวลีนตกอยู่ในเงื้อมมือมันแล้วมันต้องทรมานเอวลีนอีกแน่! สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่อยู่แล้ว ถ้าหากไรอันทำอะไรเธอขึ้นมา ฉันกลัวว่าเอวลีนจะไม่รอด!”
ฌอนรู้ว่าโทษเจเรมี่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิอีกฝ่ายอยู่ดี
“เจเรมี่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเอวลีน อย่าหวังเลยว่าผมจะยอมมอบลูกสาวให้กับคุณอีก!”
เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว เอโลอิสจึงเดินเข้ามาจากห้องนั่งเล่น และเห็นเจเรมี่กลับมาตามลำพัง เธอมองตามไปด้านหลังเจเรมี่อย่างมีความหวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...