แทนเนอร์ที่พุ่งเข้ามา ทำให้มาเดลีนนึกย้อนถึงช่วงเวลาโหดร้ายที่เขาทำกับเธอ
เกิดลมกรรโชกกระหึ่ม วูบหนึ่งด้านหลังของเธอทันทีที่เธอแสดงปฏิกิริยาต่อต้าน ฝ่ามืออันอบอุ่นของเจเรมี่จับเข้าที่ไหล่ของเธอแน่นแล้วคว้าเธอไปด้านข้างของเขา
มาเดลีนถูกโอบล้อมด้วยลมหายใจอุ่น ๆ ที่คุ้นเคยแต่ไม่คุ้นชิน แต่ก่อนที่เธอจะเห็นทุกอย่างชัด เธอเห็นแทนเนอร์ถูกสะบั้นให้ลอยไปบนอากาศก่อนที่จะกระเเทกเข้ากับต้นไม้ ตามด้วยมือขวาที่แข็งแกร่งของเจเรมี่ที่บิดแขนเขาไปรอบ ๆ เพื่อบังคับเขาให้นั่งลงกับพื้น
แทนเนอร์โหยหวนในทันที “โอ๊ย โอ๊ย!” ทว่า เจเรมี่ไม่ยอมหยุดเเค่นั้น เขายกเท้าขึ้นไปยังระยะเข่าของแทนเนอร์ก่อนจะออกแรงเตะอย่างโหดเหี้ยมและเขาบังคับให้แทนเนอร์คุกเข่าลงก่อนที่จะเตะเขาให้กระเด็นออกไป
มาเดลีนคิดว่าเจเรมี่คงต้องการสอนบทเรียนให้แทนเนอร์ต่อไป แต่แล้วจู่ ๆ เขาละทิ้งแทนเนอร์และหันมากอดเธอไว้แน่นอย่างเป็นห่วง
“ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ตรงนี้ ผมจะัไม่ยอมปล่อยให้ใครมารังแกคุณได้อีก”
โทนเสียงอ่อนโยนของเขาดังเล็ดลอดเข้าหูเธอดั่งสายน้ำไหลในตอนกลางคืน มันอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ มันมีร่องรอยของความตึงเครียดและความกังวลราวกับว่าเขาต้องการสื่อว่าเขา กำลังกังวลอยู่จริง ๆ ว่าเธอจะเจ็บปวดตรงไหน
มาเดลีนลืมตาขึ้นมาอย่างว่างเปล่า อ้อมกอดของเจเรมี่แน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนรู้สึกได้
ฝนเม็ดใหญ่ได้เทลงมาจากท้องฟ้า อย่างหนักไม่ขาดสาย มันมาพร้อมกับสายลมช่วงปลายฤดูร้อน มันช่างหนาวเหน็บเกินบรรยาย
กระนั้นความร้อนจากหน้าอกของเขาที่กดเธอแนบชิดได้แทรกซึมเข้าไปในผิวหนังเธอผ่านเสื้อผ้าของพวกเขา มันช่างร้อนเหลือเกิน
ในระยะใกล้กันเช่นนี้ เธอบอกไม่ได้เลยว่านี่เป็นการเต้นของหัวใจเธอเองหรือมันเป็การเต้นของหัวใจเจเรมี่ที่รบกวนความคิดของเธอในขณะนี้กันแน่
เมื่อเธอเกือบจะเผลอไปในความงุนงงนี้ ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่มองไม่เห็นปะทุขึ้นมาทำให้มาเดลีนมีสติอีกครั้ง “คุณวิทแมน ถ้าคุณยังทำแบบนี้ต่อไป ฉันจะโกรธจริง ๆ แล้วนะ” เธอพูดเบา ๆ และความหมายของการปฏิเสธครั้งนี้ค่อนข้างชัดเจน
ดวงตาของเจเรมี่สงบเย็นลงราวกับว่าเขาเพิ่งเดินกลับจากความฝันที่สวยงาม
“ขอโทษครับ” เขากระซิบเบา ๆ ข้างหูเธอ ก่อนปล่อยอ้อมกอดให้เธอเป็นอิสระ
เขารีบเข้าไปคว้าเเขนแทนเนอร์ที่กระเสือกกระสนวิ่งหนี และก่อนจะผลักผู้ชายคนนั้นเข้าไปกระแทกกับต้นไม้ ดวงตาสีดำลึกของเขามองทะลุแทนเนอร์ราวกับดาบอาบยาพิษ
“ฟังให้ดีนะ ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย” ริมฝีปากบางของเจเรมี่เผยอออกเล็กน้อยน้ำเสียงของเขาฟังดูเย็นชา “การที่ลูกชายฉันถูกลักพาตัว ใครเป็นคนทำและคนพวกนั้นต้องการอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...