มาเดลีนใจเต้นแรงและเธอรู้สึกกระสับกระส่าย
จากนั้นเสียงผู้ชาย นั่นบ่งบอกว่าเขามาถึงประตูแล้ว มาเดลีนไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว นอกจากจำเป็นต้องลงมือทำตอนนี้
ด้วยความปวดจากแผลที่มีเลือดออก มาเดลีนขยับเก้าอี้ที่ถูกทิ้งไว้
ผู้ชายข้างนอกกำลังใช้ความคิดเกี่ยวกับประตูที่ถูกล็อคอยู่ หลังจากเอาก้อนหินขึ้นจากพื้น มาเดลีนก้าวขึ้นไปบนเก้าอี้
“ให้ตายสิวะ! เมื่อกี้แกเป็นคนเปิดประตูไม่ใช่ไง? ทำกุญแจหายไปไหน? หาให้เจอ เดี๋ยวนี้!” เสียงโกรธดังตะโกนออกมาจากด้านนอกประตู
ได้ยินดังนั้น มาเดลีนมั่นใจว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเธอ
ขณะมองไปยังหน้าต่างที่ผุพังตรงหน้าเธอ เธอก็ยกหินขึ้นมาทุบมันให้แตก
เพล้ง!
กระจกแตกกระจายทันทีเหลือแต่กรอบ
ผู้คนที่อยู่อีกข้างประตูเงียบลงทันทีสองสามวินาทีก่อนที่จะมีคนตะโกนขึ้น “ซวยแล้วเว้ย! ยัยลูกเจี๊ยบนั้นวิ่งหนีไม่ได้ใช่ไหม หรือว่าได้?”
“อะไร? เธอหนีไป?” เสียงโกรธเกรี้ยวของผู้หญิงดังขึ้น พร้อมกับคำสั่งที่ตามมาข้างหลัง “ถีบประตูเข้าไป! แกสองคน ไปตามหายัยนั่นข้างนอก เธอไปไหนไม่ได้ไกลนักหรอก!”
ตามคำสั่ง ประตูถูกเปิดออกด้วยแรงมหาศาล
เมื่อพวกเขาดันเข้าไป ทำให้พวกเขาสองคนและเมเรดิธเจอเชือกที่มัดเอาไว้ตกอยู่ที่พื้น
“วีล่า ควินน์!” เมเรดิธกัดฟันกรอด เธอเงยศีรษะขึ้น เธอเห็นหน้าต่างกระจกบานเล็กที่ถูกทำให้แตกและเศษมีเศษผ้าติดอยู่ที่หน้าต่างนั่น “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะหนีไปได้จริง ๆ ! ไปวิ่งตามเธอ! จะไปหาเธอให้พบ หรือจะให้ฉันฆ่าแก่!”
“ไปกัน! เราต้องไปหาเธอ ด่วน!” พวกอันธพาลไล่ตามผู้หญิงที่สูญหายไปอย่างพร้อมเพียงกัน
เมเรดิธเตะกองเชือกและวิ่งออกไปด้วยความคับแค้น
บรรยากาศเริ่มเงียบลงเรื่อย ๆ
มาเดลีนโผล่หัวออกมาจากกองขยะข้าง ๆ อย่างช้า ๆ ดวงตากลมสีนิลของเธอสำรวจห้องนั้นก่อนที่เธอจะจ้องไปที่เมเรดิธที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ฉันคิดถูกจริง ๆ คนที่อยู่เบื้องหลังก็คือเธอ เมเรดิธ”
มาเดลีนไม่ตกใจเลยสักนิด
เธอหายใจเข้าลึก ๆ เธอดีใจที่ตัดสินใจได้อย่างฉลาด
เมื่อเหมือนตายไปแล้วครั้งหนึ่ง เธอไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธออีก—โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเมเรดิธ
แม้ว่าการหลบหนีจะเกิดความยากลำบากขึ้นเนื่องจากเมเรดิธยังคงรอฟังข่าวอยู่ข้างนอก
เธอเองไม่มีโทรศัพท์ติดตัวเหมือนกัน ดังนั้นการจะติดต่อใครข้างนอกเลิกคิดไปได้เลย
เมื่อเธอลดสายตาลงเพื่อคิดอะไรบางอย่าง มาเดลีนมองไปที่สร้อยข้อมือที่มีคริสตัลอยู่รอบ ๆ เธอรู้สึกว่าความกังวลในใจที่มีมาก่อนหน้านี้ของเธอสงบลงมาก
เธอยิ้มออกมา มาเดลีนเอามือลูบไล้สร้อย ภาพแจ็คสันได้ปรากฏขึ้นในความคิดของเธอในไม่ช้า
เธอนึกไม่ตกว่าทำไมเด็กที่เชื่อฟังทุกครั้งอย่างแจ็คสันถึงมีแม่ที่น่ากลัวอย่างเมเรดิธได้กัน
อย่าถามว่าเด็กคนนั้นมีอะไรเหมือนเมเรดิธบ้าง เขาดูเหมือนเจเรมี่เท่านั้น ทั้งออร่าของเขาและรูปลักษณ์ของคิ้วน้อย ๆ นั้น เป็นเหมือนร่างเเยกจำลองของพ่อตัวเองชัด ๆ
โคร้ก คร้าก
ท้องมาเดลีนร้องออกมากึกก้อง
เธอได้ถูกลักพาตัวทันทีที่ออกจากบ้านก่อนที่เธอจะมีโอกาสได้กินอะไร จากนั้น เธอถูกพวกเขาวางยา จิตใจของเธอยังคงเต็มไปด้วยความเลือนลางและง่วงนอน
เธอต้องหาทางออกให้เจอในไม่ช้านี้เพราะมีโอกาสที่จะถูกเจอสูงมากหากยังอยู่ที่นี่ต่อ
...
ด้วยความช่วยเหลือจากเส้นสายบางคน เจเรมี่พบว่ายานพาหนะที่ใช้ในการลักพาตัวมาเดลีนวิ่งฝ่าไฟแดงหลายแยก กล้องวงจรแสดงให้เห็นว่ารถคันดังกล่าวได้ขับเข้าไปในตรอก แต่นั่นก็เป็นตำแหน่งสุดท้ายที่พวกเขารู้เช่นกัน
เขารีบวิ่งไปทันที รถคันนี้จอดอยู่ที่นั่นจริง ๆ แต่ที่นี่ดูไม่มีอะไร เจเรมี่ไม่พบอะไรที่เป็นล่องลอยรอบ ๆ เลย
พวกเขาย้ายมาเดลีนไปที่อื่นที่ถูกสำรองไว้อย่างชัดเจน
รถคันนี้เป็นรถที่ถูกขโมยมา จึงไม่สามารถให้การเชื่อมโยงไปยังตัวของผู้ที่ทำการลักพาตัวได้
ท้องฟ้ามืดลงเรื่อยๆ เจเรมี่ยังหาวีล่าไม่เจอว่าเธออยู่ที่ไหน เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิด
เจเรมี่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากที่จะควบคุมไม่ให้กังวลได้เพราะวีล่าดูเหมือนมาเดลีนมากขนาดนั้น
เจเรมี่ไม่อยากเห็นความเศร้าหรือความเจ็บปวดผ่านใบหน้านั้นอีกต่อไปแม้แต่เสี้ยววินาที
เขาอยากให้เธอปลอดภัย
ตามทางเดิน เจเรมี่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเสาะหาแม้แต่เบาะแสเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะชี้ให้เขาไปยังที่ตั้งของมาเดลีนได้ ขณะที่หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะอยู่ตลอดเวลา
ทุกนาทีที่ผ่านไปความกังวลของ เจเรมี่กังวลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ