เมเรดิธมองเจเรมี่ด้วยดวงตาเหมือนเม็ดอัลมอนด์ทรงเสน่ห์ในสายตาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจขณะที่เธอพูดอย่างโกรธเคืองว่า “เจเรมี่ แจ็คเป็นลูกชายที่มีค่าที่สุดของเรา ฉันจะไม่มีทางยอมให้เขาเจ็บปวดเลยทั้งชีวิตของฉันขึ้นอยู่กับเขา ฉันจะยอมทิ้งให้เขาเจ็บปวดได้ไงกัน?”
ไม่นาน เอโลอิสเดินเข้าไปหาแจ็คสันอย่างช้า ๆ เธอปลายสายตามองมาเดลีนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก “คุณควินน์ ฉันได้ยินมาว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับลุงของเจเรมี่ แล้วทำไมถึงใช้เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันทั้งวันกับคู่หมั้นลูกสาวของฉัน? พ่อแม่ของเธอไม่เคยบอกเหรอว่าการกระทำแบบนี้มันน่าละอาย?”
ในขณะที่เจอกับคำถากถางของเอโลอิส มาเดลีนเพียงแค่ยิ้มให้เธอด้วยความสงบ “นั่นเป็นคำถามที่ดี คุณนายมอนต์โกเมอรี ก็จริงที่พ่อแม่ของฉันไม่เคยสอนเรื่องแบบนี้หรอกเพราะหลังจากที่เกิดไม่นานพวกเขาพาลูกคนอื่นกลับไปเลี้ยงดูที่บ้านและดันทิ้งลูกสาวตัวจริงของพวกเขาไว้ที่ไหนก็ไม่รู้เนื่องจากความประมาทของพวกเขาเอง”
ขณะที่เธอเล่าเรื่องจริงของตัวเองทั้งหมด เจเรมี่มองเธออย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสิ่งนี้เคยเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างเขาคนนี้
ในขณะที่เห็นเธอเผยรอยยิ้มที่แสนสง่างามออกมา เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเจ็บโดยไม่ทราบสาเหตุ
ทั้งเอโลอิสและเมเรดิธต่างพากันผงะตาม ๆ กัน
‘นี่มันคล้ายกับประสบการณ์ชีวิตของมาเดลีนจริง ๆ?’ เมเรดิธคิดอย่างเงียบ ๆ คนเดียว
ทว่า เอโลอิสสะอึกเล็กน้อย และใบหน้าของเธอไม่มีรอยยิ้มดูถูกอีกต่อไป
เมื่อเห็นถึงสีหน้าท่าทางของเอโลอิสและเมเรดิธแล้ว ริมฝีปากบางสวยมาเดลีนกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“แม้ว่าพ่อแม่ที่ให้กำเนิดฉันมาจะไม่เคยสอนเรื่องนี้ แต่คนที่เลี้ยงดูฉันมาได้สอนฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้และหลายสิ่ง เอาล่ะถึงตาฉันถามคุณบ้างแล้ว คุณนายมอนต์โกเมอรี ในเมื่อคนเป็นแม่ตัวอย่างที่ดีขนาดนี้แล้ว ทำไมลูกสาวของคุณถูกเลี้ยงมาให้เป็นคนน่ารังเกียจและเฉยเมยที่จะให้ความรักแก่คนในครอบครัว ตลอดจนในช่วงเวลาที่อันตรายขนาดนั้น เธอยังสามารถทิ้งลูกชายของตัวเองให้เดินหนีไปคนเดียวได้? มันดูเหมือนว่าการเลี้ยงดูของคุณจะไม่ได้ดีไปกว่าฉันสักเท่าไหร่เลยนะ คุณนายมอนต์โกเมอรี”
“เธอ กำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?!” เอโลอิสพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “เธอกล้าใส่ร้ายลูกสาวของฉันแบบนี้ได้ยังไง? เธอต้องขอโทษเมเรดิธเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้น ฉันจะทำให้เธอรู้จักสำนึกเอง!”
“คุณแม่ ... ” ดวงตาของเมเรดิธมีน้ำตาคลอที่แสดงความเสียใจ “เจเรมี่ นายได้ยินแล้วใช่ไหม? ฉันยอมให้คุณควินน์คนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอก็ยังโต้ฉันไม่หยุดและเธอยังคอยใส่ร้ายฉันเสมอ ตั้งแต่ที่เจอเธอจนถึงตอนนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากก็เป็นเพราะเธอ ทำใมฉันต้องมีชีวิตที่ข่มขืนแบบนี้…”
ขณะที่ได้ยินเสียงมเรดิธร้องไห้ เอโลอิสกอดปลอบเธออย่างไม่สบายใจก่อนจะชี้นิ้วไปที่มาเดลีน
“วีล่า ควินน์ วางแผนจงใจลูกสาวของฉันโดยไร้ทางสู้! เธอมันเป็นผู้หญิงหน้าด้าน! เธอทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้เข้ามาเป็นมือที่สามของเจเรมี่กับเมเรดิธเพื่อที่จะได้เขา เธอ…”
“คนที่เข้าไปเป็นมือที่สามไม่ใช่วีล่า มันคือผมต่างหาก”
เสียงนุ่มทุ้มต่ำของเจเรมี่เอ่ยขัดเอโลอิสอย่างดุดันและชัดเจน
เขาขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับแสดงสีหน้าที่เย็นชาดุจน้ำแข็ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...