แม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่ข้างใน มาเดลีนยังคงรักษารอยยิ้มที่สง่างามและความสงบไว้อยู่
เธอยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งและแสดงใบหน้าสงสัยออกมาเล็กน้อย “ที่ร่างกายฉันมีรอยพิเศษอะไรอยู่งั้นเหรอ? ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลย? ว่าแต่ คุณเห็นอะไรเหรอ?” เธอถามอย่างใจเย็น แต่การเต้นของหัวใจเริ่มตึงเครียด
ดวงตาสีดำสนิทของเขาจ้องมาที่เธอก่อนที่เขาจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “คุณมีรอยผีเสื้อจาง ๆ ที่ข้างหลังตรงเอวด้านซ้าย”
เสียงทุ้มต่ำของเขา ทำให้เกิดความอิดโรยแบบไม่เป็นทางการในช่วงเช้าของวัน
“ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นปานนะ”
มาเดลีนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินที่เขาตอบเธอยิ้มจาง ๆ ออกมา “มันเป็นปาน”
“เป็นปานพิเศษมาก”
“แล้วยังไงถึงมันจะพิเศษก็เถอะ? ฉันก็ยังวถูกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดทอดทิ้งอยู่ดี” มาเดลีนใช้สายตาจ้องมองต่ำลงและกินอาหารเช้าอย่างเงียบ ๆ
รังสีของแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างกระจกกระทบเข้ากับใบหน้างดงามของเธอ ขนตาหนาของเธอกระพือเบา ๆ พร้อมกันกับกระพริบตา ความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ไม่อาจบรรยายได้ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในดวงตาสวยงาม
สำหรับเหตุผลนี้ เจเรมี่รู้สึกเห็นภาพเธอตรงนั้นมันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้
รอยยิ้มที่เคยมีอยู่บนหน้าเขาหายไปสีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น “ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าพ่อแม่ของคุณได้ทำคุณหายก่อนจะนำเอาเด็กคนอื่นกลับเข้ามาเลี้ยง คุณตามหาเขามาหลายปีแล้วใช่ไหม?”
“ฉันพบพวกเขาแล้ว” มาเดลีนตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง “แต่ว่าตอนนี้พวกเขามีความสุขที่จะอยู่กับลูกเก็บมาเลี้ยง มากกว่าฉัน…"
มาเดลีนหัวเราะเล็กน้อยอย่างประชดประชัน “สำหรับฉันแล้วนะ แค่หน้าพวกเขายังไม่อยากจะเห็นฉัน นับประสาอะไรกับที่จะให้พวกเขามายอมรับในตัวฉัน”
ความเงียบเกิดขึ้นและใช้เวลามาพักหนึ่งหลังจากที่เธอพูดจบ
หลังจากเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารเช้า เจเรมี่ส่งมาเดลีนกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ
เฟลิเป้นั่งรอมาเดลีนทั้งคืน และเมื่อเห็นว่าเธอกลับมาถึงห้องแล้ว เขาปล่อยความกังวลใจนั้นไปอย่างเงียบ ๆ
มาเดลีนไม่ได้บอกอะไรกับเฟลิเป้ว่าเมื่อคืนเธอถูกวางยา เพราะกลัวว่าเขาจะเป็นห่วงกว่านี้
เฟลิเป้สังเกตเห็นว่าชุดที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ตอนนี้ไม่ใช่ชุดเดียวกันกับชุดที่เธอใส่ออกจากบ้านไปเมื่อวาน
“คุณใช้เวลาทั้งคืนอยู่กับเขาเหรอ?” เฟลิเป้ถามอย่างไม่แน่ใจ
มาเดลีนพูดแก้ตัวว่า “ฉันแค่อยู่ที่นั่นเพื่อทำให้เมเรดิธไม่พอใจก็เท่านั้น”
“คุณนอนในห้องเขาไหม? ทั้งสองคน—”
“ไม่” มาเดลีนเอ่ยขัดขึ้นน้ำเสียงของเธอเย็นลง “ฉันไม่มีทางให้เขาได้แตะเนื้อต้องตัวฉันได้อีก ฉันจะไปมีความหวังอะไรกับผู้ชายที่เคยพาฉันลงนรก”
เธอเธอยิ้มออกมา ลักยิ้มของเธอดูอ่อนหวาน แต่รอยยิ้มที่เธอเผยออกมาตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
“เฟลิเป้ ไม่ต้องกังวล ฉันรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่”
“ถ้าอย่างนั้น ก็ดีแล้ว” ในขณะที่ความกังวลในดวงตาของเฟลิเป้จางหายไป สายตาของเขากลับมามีความอ่อนโยนเหมือนเดิม เขาจับมือเธอเบา ๆ “แม้ว่าการกระทำทุกอย่างจะเป็นของปลอม แต่ผมก็ไม่สบายใจอยู่ดีที่เห็นคุณอยู่กับเขาอีก”
แม้ว่าคำพูดของเขาจะกํากวม แต่มาเดลีนเข้าใจอย่างชัดเจนถึงเจตนาที่เขาหมายถึง
“ตั้งแต่ที่ผมเห็นเจเรมี่ขับรถออกไปและคุณตกอยู่ข้างถนนในวันนั้นท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำนั่น ผมสาบานกับตัวเองว่าจะปกป้องคุณเสมอ”
“ผู้หญิงทุกคนคือสมบัติที่พระเจ้าทิ้งไว้ให้บนโลก โดยเฉพาะผู้หญิงที่เพรียบพร้อมไปด้วยทุกอย่างแบบคุณ” เฟลิเป้พูดเบา ๆ
ความอ่อนโยนของดวงตาของเขาแทรกซึมไปทั่วทุกที่เหมือนน้ำพุร้อนที่พูดออกมาจะใต้ดิน ชโลมร่างกายที่บอบช้ำของเธอทีละหยดทีละหยด
มาเดลีนมองดวงตาของเฟลิเป้ด้วยความงุนงง เธอต้องการที่จะพูดบางอย่างไปแต่ลังเลที่จะพูดมัน
เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เฟลิเป้ยิ้มออกมา และลูบหัวเธอเบา ๆ
“วันที่ 10 ของเดือนที่จะถึงนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 80 ปีของอาวุโสวิทแมน การที่เจเรมี่ให้ความสำคัญกับเธอมากหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับเขาจะทำอะไรในเวลานี้”
มาเดลีนปรับสายตาลงและไตร่ตรองใช้ความคิด
บางที นี่เป็นโอกาสที่น่าอัศจรรย์
บางทีอาจเป็นเรื่องของเวลา
มาเดลีนยังคงมีความกลัวอย่างต่อเนื่องเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
โชคดีที่สิ่งที่เจเรมี่เห็นเป็นเพียงปานรูปผีเสื้อที่ด้านหลังเอวของเธอ ถ้าเขาได้เห็นหน้าอกของเธอในเวลานั้น ตัวตนของเธอจะถูกเปิดเผย
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ