ในอีกด้านหนึ่ง เมเรดิธได้จ้างคนมาแอบดูที่บ้านเจเรมี่ตลอดทั้งคืน และได้รับการแจ้งจากสายข่าวว่ามาเดลีนอยู่ในห้องนอนของเจเรมี่ทั้งคืน และเธอคิดถึงเรื่องนี้ นั่นทำให้เธอทวีความโกรธขึ้นเป็นเท่าตัว!
เธอได้กำจัดมาเดลีนให้หายไปพร้อมกับปัญหามากมายเมื่อสามปีก่อนได้อย่างสมบูรณ์ แต่ใครจะไปคิดกันล่ะว่ามีผู้หญิงที่ดูเหมือนมาเดลีนมากขนาดนั้นอยู่อีกคน
และที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ง่ายเลยที่จะจัดการได้เหมือนที่ทำกับมาเดลีน
เมเรดิธยืนอยู่ที่หน้ากระจก จ้องมองรอยบากที่หน้าตัวเอง ด้วยความหงุดหงิดที่เพิ่มมากขึ้น
เธอใช้วิธีที่มีในมือไปหมดแล้ว แต่เจเรมี่เองก็ยังคงเย็นชากับเธออยู่ เธอรู้แค่ว่าต้องเล่นในบทของ ‘ลินนี่น้อย’ เท่านั้นถึงจะดึงเจเรมี่กลับมาได้
อันดับแรก เธอต้องหาทางรักษาบาดแผลที่อยู่บนหน้าเธอก่อน
เมเรดิธกำลังใช้ความคิดอยู่นั้นเมื่อถูกขัดขึ้นทันทีจากที่เธอรู้สึกคันเล็กน้อยบริเวณเอวของตัวเอง เธอเอามือเกาที่คันเพียงเล็กน้อยแต่มันกลับทำให้คันมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอเอากระจกมาส่องที่คันจนเห็นว่าบริเวณนั้นมีรอยสีแดงนูนขึ้น
เพื่อที่จะสวมรอยเป็นมาเดลีนและกลายเป็นลูกสาวมอนต์โกเมอรีในตอนแรก เธอไม่ลืมที่จะสักปานรูปผีเสื้อปลอม ๆ บนส่วนนี้ของร่างกายของเธอไว้
แต่ทว่าในตอนนั้น เธอใจร้อนเกินไป เธอสุ่มเลือกร้านสักโดยไม่ไตร่ตรองให้ดี ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นเพียงสามปี ไม่ใช่แค่สีที่จางลง แต่เธอยังมีอาการคันเนื่องจากแพ้สารบางอย่างอีกด้วย
เมเรดิธขีดข่วนมันอย่างสิ้นหวังจนกระทั่งเธอได้ยินเสียงเปิดประตู
“เมเรดิธ ลูกอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า?” เสียงของเอโลอิสใกล้เข้ามา
เมเรดิธรีบแต่งตัวอย่างรีบ ๆ ก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องน้ำ
“คุณแม่” เธอตอบกลับอย่างดูเชื่อฟัง แต่อารมณ์และใบหน้าของเธอแสดงถึงความหดหู่
“เมเรดิธ ” เอโลอิสตบไหล่เธอ ด้วยความรู้สึกเสียใจแทน “เด็กโง่ อย่าพูดถึงเรื่องที่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่เลย ไม่มีอะไรเป็นความผิดของลูกเลยสักนิด”
เมเรดิธกัดปากด้วยความรู้สึกทรมาน “วีล่า ควินน์ ผู้หญิงคนนั้นได้พาพวกอันธพาลรุมรังแกหนู แต่ไม่มีใครเอาผิดเธอได้ หนูไม่คิดมาก่อนว่าเจเรมี่จะมองข้ามเรื่องนี้ไปเพียงเพราะเขาต้องการปกป้องเธอ ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ หนูก็ยิ่งปวดใจ”
“แม่จะเป็นคนจัดการให้ลูกเอง!” เอโลอิสเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “แม่คิดว่าตอนนี้เจเรมี่เองสับสนเล็กน้อย เมื่อกี้นี้ ผู้จัดการของร้าน ดี ดับบิว โทรมาบอกแม่เมื่อกี้ว่าเจเรมี่สั่งตัดชุดราตรี ขนาดพอเหมาะกับตัวลูกเลย!”
เมเรดิธรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น “หรือว่าเจเรมี่สั่งชุดนั่นให้หนู?”
เอโลอิสยิ้มอย่างร่าเริง “วันที่ 10 เดือนหน้านี้เป็นวันเกิดครบรอบ 80 ปีของอาวุโสวิทแมน แม่คิดว่าเจเรมี่จะต้องสั่งตัดชุดให้ลูกใส่ไปในวันนั้นแน่นอน เขาต้องการให้ลูกไปร่วมงานเลี้ยงเป็นเพื่อนเขาแน่นอน”
“นั่นเป็นความจริงใช่ไหมคะ?” เมเรดิธพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ความกังวลใจและความไม่พอใจที่มีก่อนหน้านี้ทั้งหมดถูกทิ้งไปในทันที
เอโลอิสพยักหน้ายืนยัน “แน่นอนว่า มันต้องเป็นเรื่องจริงสิ ลูกเป็นคนบอกเองว่าได้อยู่กินกับเขามาตั้งหลายปีแล้วและทั้งสองยังมีลูกด้วยกัน และมันก็แค่วันนั้นที่เขาอารมณ์เสียมากไปหน่อย แต่ว่าคนที่เขารักมากที่สุดเสมอมาก็ยังเป็นลูกอยู่ดี!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เมเรดิธได้เรียกความมั่นใจของเธอกลับคืนมา ยิ่งเธอใช้ความคิดกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ความสมเหตุสมผลนั้นก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
“อย่างนั้น ต้องมีความสุขกับวันเหล่านี้นะลูกและตอนนี้ก่อนอื่นเลยมารักษาใบหน้าของลูกกัน”
เมเรดิธพยักหน้าซ้ำ ๆ พร้อมดวงตาที่เปล่งประกาย
ดูเหมือนว่าเธอกำลังวาดนิมิตเห็นว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในชุดแต่งงานที่เจเรมี่สั่งให้และมองเห็นว่าตัวเธอนั้นยืนอยู่เคียงข้างเขา เหมือนทุกทีและทุกสายตาของผู้หญิงที่อยู่ในงานไม่ว่าใครจะมองเธอด้วยความอิจฉา
เธอไม่มีทางที่จะพลาดโอกาสดี ๆ อีกครั้งเธอจะต้องหาทางประกาศงานแต่งงานกับเขาให้ได้!
เมเรดิธอารมณ์ดีขึ้นมากหลังจากบาดแผลที่อยู่บนหน้าเธอเริ่มตกสะเก็ด เธอรีบเข้าไปยังคลินิกรักษาความงามเพื่อที่จะทำเลเซอร์ หลังจากที่ลงรองพื้นของเครื่องสำอางเรียบร้อยแล้ว แผลที่ใบหน้าของเธอก็แทบจะมองไม่เห็น
ก่อนวันเกิดของอาวุโสวิทแมน ผู้ช่วยฝ่ายบริการของ ดี ดับบิว รายงานเธอเกี่ยวกับชุดราตรีที่เจเรมี่สั่งตัดเป็นการส่วนตัวได้ถูกเอาไปแล้วและเขาควรที่จะมอบให้เธอในวันนี้
เมเรดิธมองภาพถ่ายของชุดจำลอง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหรือการสั่งตัดชุดนี้สวยงามไร้ที่ติเธอแทบรอไม่ไหวที่จะสวมใส่มัน
เมเรดิธนั่งรอจนค่ำ แต่เจเรมี่ไม่ได้ติดต่อเธอเลยทั้งวันนี้
เธอรอต่อไปไม่ได้แล้ว เธอจึงจัดเป็นสินใจโทรไปหาเจเรมี่ด้วยตัวเอง แต่เขากลับไม่รับสาย
เธอไปหาเขาที่คฤหาสน์ แต่ก็ไม่พบเขาอยู่ที่นั่นเช่นกัน
เมเรดิธกังวลและรู้สึกเบื่อหน่ายมาก เธอจ้างคนไปหาที่อยู่ของเจเรมี่ แต่กลับไม่พบว่าเขาอยู่ที่ไหนเลยสักที่
เช้าวันรุ่งขึ้น เมเรดิธแต่งหน้าอย่างหนาพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตาและไปที่คฤหาสน์วิทแมนกับเอโลอิส
แขกหลายคนเข้ามาในสนามของคฤหาสน์แล้ว พวกเขาคุยกันและหัวเราะกัน บรรยากาศเริ่มครึกครื้น
เมเรดิธมองไปรอบ ๆ แต่ก็ยังไม่เห็นเจเรมี่ปรากฏตัวอยู่ที่นี่
เมื่อเห็นคุณนายวิทแมนเดินออกมา เธอรีบวิ่งเข้าไปถามทันที คุณนายวิทแมนเห็นเธอแล้วมีอาการงงเล็กน้อย “เจเรมี่โทรเข้ามาที่บ้านใหญ่เมื่อเช้าแล้วบอกว่าเขาจะพาผู้หญิงคนสำคัญมาพบพ่อกับแม่ นี่ฉันคิดว่าเขาล้อเล่นและพูดถึงเธอนะจริง ๆ แล้ว เป็นไปได้ไงกันที่เขาไม่ได้พูดถึงเธอ? แล้วเจเรมี่พาใครมา?”
ทั้งคุณนายวิทแมนและเอโลอิสต่างงงไม่ต่างกัน
สีหน้าของเมเรดิธเปลี่ยนไปทันที เธอรู้สึกแย่ในขณะนี้
ในระหว่างที่เธอกำลังวิตกกังวลนั้น มีเสียงบางอย่างดังขึ้นที่ประตู เธอเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเธอแทบจะทะลุออกจากเบ้าเมื่อเห็นภาพนั้นที่อยู่ไม่ไกลจากเธอมาก ความโกรธของเธอก็พุ่งขึ้นไปที่ลำคอของเธอ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ